
ยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อ คือ ยาที่ยับยั้ง ฆ่า และ/หรือ ต้านจุลชีพ โดยทั่วไปมักเป็นเชื้อแบคทีเรีย แต่อาจครอบคลุมถึงเชื้อไวรัสบางชนิด และเชื้อราบางชนิดได้ด้วย โดยยาแต่ละกลุ่มจะสามารถรักษาอาการติดเชื้อในแต่ละบริเวณได้แตกต่างกัน แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ไม่เข้าใจและไม่ทราบวิธีการรับประทานยาฆ่าเชื้อที่ถูกต้อง
การรับประทานยาฆ่าเชื้อนั้น สิ่งสำคัญคือควรรับประทานติดต่อกันให้ครบตามที่แพทย์หรือเภสัชกรกำหนด มีหลายคนที่รับประทานยาไม่สม่ำเสมอ รับประทานไม่ติดต่อกัน เมื่ออาการดีขึ้น ก็จะหยุดรับประทานยาไปเอง ซึ่งการทำแบบนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การรักษาไม่ได้ผล และเสี่ยงต่อการ “ดื้อยา” ได้ เนื่องจากเมื่อรับประทานยาฆ่าเชื้อไปจำนวนหนึ่งทำให้เชื้อลดจำนวนลงและส่งผลให้อาการต่างๆ เริ่มดีขึ้น แล้วผู้ป่วยหยุดรับประทานยาฆ่าเชื้อไปก่อนครบกำหนดหรือรับประทานยาไม่สม่ำเสมอจะทำให้ปริมาณยาในร่างกายไม่เพียงพอที่จะกำจัดเชื้อให้เหลือน้อยจนโรคหรืออาการติดเชื้อต่างๆ หายขาด ทำให้เชื้อสามารถแบ่งตัวเพิ่มขึ้นและเกิดการเป็นซ้ำได้
หลักการเกิดการดื้อยานั้น เชื้อแบคทีเรียจำนวนหนึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม ทำให้ยาฆ่าเชื้อชนิดเดิมไม่สามารถทำลายเชื้อเหล่านี้ได้ เมื่อเชื้อดื้อยาเหล่านี้จะเพิ่มจำนวนและทำให้อาการของโรคกลับมาเป็นซ้ำ
เมื่อเกิดการดื้อยาขึ้นแล้วจะทำให้ยาชนิดเดิมหรือขนาดเดิมไม่สามารถที่จะใช้รักษาได้ อาจต้องเพิ่มขนาดยา เพิ่มระยะเวลาในการรักษาหรือแม้กระทั่งต้องเปลี่ยนชนิดของยาฆ่าเชื้อเป็นยาฆ่าเชื้อกลุ่มอื่นแทน ซึ่งอาจเป็นยากลุ่มที่ควรจะเก็บไว้ใช้สำหรับการติดเชื้อที่รุนแรง ทำให้ในอนาคตหากเกิดการติดเชื้อที่รุนแรงจะทำให้โอกาสที่เชื้อจะดื้อยาตัวใหม่ก็เพิ่มขึ้นและยังทำให้เหลือจำนวนตัวเลือกยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพในการรักษาน้อยลง นอกจากปัญหาเรื่องการรักษาแล้ว ยังทำให้ต้องจ่ายเงินแพงขึ้นด้วย
“ดังนั้น ข่าวแชร์ ที่ว่า ไม่ต้องกินยาปฏิชีวนะให้ครบคอร์ส จึงไม่ควรเชื่อ และไม่ควรแชร์ต่อ”