
ข่าวแชร์ทั่วโซเชียล กาแฟถั่งเช่า ลดอาการปวดข้อ ปวดหลังได้หรือไม่วันนี้เรามีคำตอบ
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับกาแฟกันก่อน กาแฟมีสารสำคัญที่ชื่อว่า กาเฟอีน (Caffeine)
โดยกาเฟอีน มีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาท ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น และมีสมาธิ ไม่สามารถแก้ปวดข้อ
และหลังได้
ส่วนถั่งเช่า เป็นสมุนไพรที่พบได้บริเวณแถบทุ่งหญ้าบนภูเขาของประเทศจีน นิยมใช้
กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากหลาย ๆ คนเชื่อว่าสามารถบรรเทาอาการปวดข้อ และปวดหลังได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง ยังไม่มีงานวิจัยใดสรุปได้ว่าสมุนไพรถั่งเช่านั้นสามารถบรรเทาอาการดังกล่าวได้
ดังนั้นจากข่าวแชร์ที่อ้างว่า กาแฟถั่งเช่า บรรเทาอาการปวดข้อ ปวดหลัง นั้นไม่เป็นความจริง ความจริงแล้วนั้นอาการปวดข้อ และหลังเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลัก ๆ นั้นมาจากการใช้งานที่มากเกินไป และด้วยอายุที่มากขึ้น จึงทำให้อาการปวดรุนแรงมากขึ้น โดยมากแล้ว การรักษาอาการปวดข้อ
และปวดหลังนั้นสามารถทำได้หลายอย่าง เช่น กินยา การทำกายภาพบำบัด เป็นต้น
ยาที่บรรเทาอาการปวดมีหลายชนิด เช่น
1. ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) แนะนำให้กินห่างกันอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง และใน 1 วัน ไม่ควรกินยาเกิน 8 เม็ด หรือ 4,000 มิลลิกรัม
2. ยาบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) นาโปรเซน (Naproxen) เป็นต้น โดยตัวยาในกลุ่มนี้มีผลข้างเคียง คือ อาจทำให้ ระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ จึงแนะนำให้กินหลังอาหารทันที และดื่มน้ำตามมาก ๆ และไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เพราะอาจทำให้เกิดอันตราย หรือ
แพ้ยาได้
3. ยากลุ่มโอปิออยด์ (Opioid) เช่น มอร์ฟีน (Morphine) มีฤทธิ์ระงับปวดรุนแรง ซึ่งยาในกลุ่มนี้ต้องใช้โดยบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น ห้ามหาซื้อยาจากร้านที่มีการลักลอบขายโดยเด็ดขาด เพราะยาในกลุ่มนี้มีผลข้างเคียงที่อันตราย หากใช้ไม่ถูกต้องอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้
วิธีที่ดีที่สุด คือไม่ควรหลงเชื่อคำกล่าวอ้างของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพราะอาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อทางการตลาดได้ นอกจากนี้หากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์
สนับสนุนโดย : กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์