
อัพเดทข้อมูล ณ วันที่ 02/08/67
อาการคันที่เกิดจากเชื้อราตามผิวหนังต่าง ๆ ที่ผู้ใหญ่มักจะบอกกับเราว่าเป็นโรคกลากเกลื้อนแต่ความจริงแล้ว กลาก กับ เกลื้อน มีสาเหตุจากเชื้อราคนละตัว แล้วเราจะแยกออกได้อย่างไรว่าเป็นกลาก หรือเกลื้อน กันแน่นะ
กลาก เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Dermatophytes เชื้อของกลากเป็นโรคติดต่อ สามารถติดต่อจากคนไปสู่คน จากสัตว์สู่คน หรือจากสิ่งแวดล้อมไปสู่คนได้
มีปัจจัยที่ทำให้เกิดได้หลายอย่าง เช่น ภูมิคุ้มกันต่ำ อยู่ในบริเวณที่อับชื้น โดยสามารถเกิดได้หลายตำแหน่งของร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรด ปลายเท้า
อาการของกลาก มักมีอาการคัน ผื่นเป็นผื่นสีแดง มีขอบเขตชัดเจน มีรูปร่างเป็นวงกลมหรือวงแหวน ขอบภายนอกมักมีสีเข้มกว่าผิวหนังด้านใน ถ้าลุกลามขยายออกมากขึ้นจะเห็นผื่นรูปวงแหวนมีขอบเขตชัดเจนยิ่งขึ้น อาจจะพบขุย สะเก็ดลอกบาง ๆ ที่ขอบวงแหวนได้
การรักษา 1. ยาทาภายนอก เช่น Benzoic acid, Whitfield’s ointment
2. ยาฆ่าเชื้อราชนิดรับประทาน
เกลื้อน เกิดจากเชื้อรา Malassezia furfur ซึ่งเป็นเชื้อราประจำถิ่นที่อาศัยอยู่บนผิวอยู่แล้ว โดยหากมีปัจจัยมากระตุ้นเช่น สภาพอากาศร้อน มีเหงื่อออกมาก ภูมิคุ้มกันต่ำ ก็จะเกิดโรคขึ้นได้ โดยมักพบบริเวณ หน้า ต้นคอ หน้าอก และหลัง
อาการของเกลื้อน ลักษณะผื่นจะพบเป็นวงเล็ก ๆ หรือวงแหวนมีสีน้ำตาล หรือสีขาวจาง ๆ ขอบเขตค่อนข้างชัดเจน มักจะมีขุย หรือสะเก็ด แต่บางคนอาจไม่พบขุย หรือเศษของผิวหนัง อาจพบเพียงรอยด่างบริเวณผิวหนัง
การรักษา 1. ยาทาภายนอก เช่น Selenium sulfide เป็นต้น
2. ยาฆ่าเชื้อราชนิดรับประทาน
โดยหากมีอาการดังกล่าวข้างต้น ก่อนรับประทานหรือทายา แนะนำให้ไปพบแพทย์ หรือเภสัชกร
สำหรับการป้องกันกลาก และเกลื้อนนั้นก็แสนง่าย คือต้องหมั่นรักษาความสะอาด อย่าปล่อยให้ผิวหนังอับชื้น ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี แค่นี้เราก็ห่างไกลจากโรคกลาก และเกลื้อนแล้ว