ที่ผ่านมายังพบว่าคนไทยยังมีความเข้าใจผิดในว่ายาปฏิชีวนะคือยาแก้อักเสบ
ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการใช้ยาที่ไม่ถูกต้อง เช่น
การซื้อยาใช้เอง การใช้ยาผิดข้อบ่งชี้ ใช้ยาผิดขนาด
หรือใช้ยาไม่นานพอที่จะกำจัดเชื้อได้ ทำให้เกิดปัญหาเชื้อดื้อยาตามมา ซึ่งปัญหาการใช้ยาปฏิชีวนะและเกิดเชื้อดื้อยานั้นเป็นปัญหาที่มีมานานและยังเป็นปัญหาที่พบได้มากในปัจจุบัน
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับยาปฏิชีวนะกันก่อน ดังนี้
ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ (Antibiotics) เป็นยาที่มีฤทธิ์ในการทำลาย ฆ่า หรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียโดยผ่านหลาย ๆ กลไก
ไม่มีฤทธิ์ต่อเชื้อไวรัส จึงไม่ช่วยให้โรคติดเชื้อไวรัสหรือโรคภูมิแพ้หายเร็วขึ้นหรือมีอาการดีขึ้น
และยาปฏิชีวนะไม่ใช่ยาแก้อักเสบ
การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม พบได้หลายรูปแบบ ได้แก่
∙ การใช้ยาที่มีระยะเวลาสั้นเกินไป ลืมรับประทานยารวมถึงการหยุดยาปฏิชีวนะเมื่ออาการดีขึ้น
ซึ่งอาจเกิดจากใช้ยาไม่ครบตามจำนวนวันที่แพทย์สั่ง
∙ การใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินความจำเป็น
เช่น ใช้ยาติดต่อเป็นระยะเวลายาวนานโดยไม่มีข้อบ่งชี้ในการใช้
∙ การใช้ยาในขนาดต่ำเกินไป เช่น
รับประทานยาแค่ 2
มื้อ แต่ที่ควรจะเป็นคือ 4 มื้อ
ทำให้ไม่เพียงพอต่อการออกฤทธิ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
∙ การใช้ยาไม่ถูกกับโรค เช่น
การใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคไข้หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส
∙ การแบ่งยากันใช้
ทำให้เกิดการใช้ยาอย่างไม่เหมาะสมหลายอย่าง เช่น ใช้ยาไม่ถูกกับโรค
ใช้ขนาดยาไม่ถูกต้อง เป็นต้น
เราช่วยกันลดปัญหาเชื้อดื้อยาได้ โดยปฏิบัติตามแนวทางการใช้ยา 3 ข้อ ต่อไปนี้
1.ใช้ยาปฏิชีวนะในกรณีจำเป็นเท่านั้น
เช่น
การป่วยด้วยโรคหวัดเกิดจากเชื้อไวรัสไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
2.กินยาปฏิชีวนะให้ครบขนาดตามที่แพทย์สั่ง
หากหยุดกินเองเชื้อแบคทีเรียจะปรับตัวให้คงทนต่อยามากขึ้นและกลายเป็นเชื้อดื้อยาในที่สุด
3.ใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล
ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ยาแรงหรือกว้างเกินไป
เพื่อมุ่งให้หายจากอาการป่วยโดยเร็ว
ซึ่งหากใช้ยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์แรงในการรักษาเริ่มแรกทันที
เมื่อเกิดการดื้อยาขึ้นจะทำให้ไม่มียาขนานต่อไปเพื่อใช้ในการรักษา
อันตรายจากการใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ
1.เกิดการแพ้ยา ซึ่งหากแพ้ยารุนแรงผิวหนังจะเป็นรอยไหม้ หลุดลอก
หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต
2.เกิดเชื้อดื้อยา
การกินยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อกระตุ้นให้เชื้อแบคทีเรียกลายพันธุ์เป็นเชื้อดื้อยา
ต้องเปลี่ยนไปใช้ยาปฏิชีวนะที่แรงขึ้น แพงขึ้น
อาจได้รับผลข้างเคียงจากยามากขึ้น ซึ่งเหลือให้ใช้อยู่ไม่กี่ชนิด
สุดท้ายก็จะไม่มียารักษา และเสียชีวิตในที่สุด
3.เกิดโรคแทรกซ้อน
ยาปฏิชีวนะจะฆ่าทั้งแบคทีเรียก่อโรคและแบคทีเรียชนิดดีมีประโยชน์ในลำไส้
เมื่อแบคทีเรียชนิดดีตายไป เชื้ออื่น ๆ จึงฉวยโอกาสเติบโตมากขึ้น
ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น ลำไส้อักเสบอย่างรุนแรง
ซึ่งอันตรายถึงชีวิต
ยาปฏิชีวนะเป็นยาอันตรายที่ห้ามจำหน่ายในร้านค้าทั่วไป แนะนำให้เข้ารับบริการ ณ ร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตโดยสังเกตได้จากป้ายกำกับแสดงเลขที่ใบอนุญาตขายยาและป้ายระบุชื่อพร้อมภาพเภสัชกรประจำร้าน ซึ่งจะต้องติดไว้ ณ ที่เปิดเผยเห็นได้ง่าย และมีเภสัชกรที่ได้มาตรฐานปฏิบัติงานตลอดเวลาที่เปิดทำการ รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.pidst.or.th/A743.html
https://amrthailand.net/uploads/strategy/63/3โรครักษาได้.pdf
3 แนวทาง วิธีการใช้ยาปฏิชีวนะ - Thaihealth.or.th | สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
อันตรายจากการใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ (healthserv.net)
https://www.hfocus.org/content/2017/11/14839
เชื้อดื้อยา (Antibiotic Resistant)
การใช้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic drugs) อย่างถูกต้องและเหมาะสม
ทำความรู้จักยาปฏิชีวนะ