สาเหตุของอาการไอทราบได้จากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย
และวินิจฉัยโดยแพทย์ ซึ่งหากตรวจแล้วพบว่ามีอาการไอ
สามารถรักษาเบื้องต้นโดยการใช้ยาเพื่อบรรเทาได้ ดังนี้
1. ยาที่ช่วยลดการเกิดน้ำมูกไหลลงคอ
ซึ่งหากน้ำมูกไหลลงคอจะกลายเป็นสเลดหรือเสมหะในคอ ยากลุ่มนี้ เช่น Chlorpheniramine, Cetirizine หรือ Loratadine เป็นต้น ยาแก้แพ้กลุ่มนี้ทำให้ง่วงซึม
หากไม่สามารถทนผลข้างเคียงได้อาจใช้ยาในรูปแบบพ่นจมูก เช่น Fluticasone
Propionate หรือ Ipratropium
Bromide
2.
กลุ่มยาที่ช่วยต้านการอักเสบบริเวณเยื่อบุทางเดินหายใจ จะช่วยลดการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นของเยื่อบุทางเดินหายใจให้ช้าลง
ได้แก่ Corticosteroids
ชนิดสูดพ่น ส่วนชนิดรับประทาน เช่น
Prednisolone
3. กลุ่มยาที่ช่วยบรรเทาอาการไอ
3.1 กรณีไอแห้ง
ใช้ยาลดหรือระงับการไอ เช่น Dextromethorphan, Codeine เป็นต้น
3.2 กรณีไอมีเสมหะ
- ยาขับเสมหะ ทำให้เสมหะที่เดิมมีความเหนียวข้น
ถูกทำให้มีความหนืดลดลง และสามารถไอเอาเสมหะออกได้ง่ายขึ้น เช่น Guaifenesin,
Terpin Hydrate, Ammonium Chloride เป็นต้น
- ยาละลายเสมหะ
จะไปทำลายโครงสร้างของเสมหะในส่วนที่ทำให้เสมหะเหนียว
ทำให้ความข้นหนืดของเสมหะลดลง และสามารถไอเอาเสมหะออกได้ง่ายขึ้น เช่น Acetylcysteine,
Carbocisteine, Bromhexine เป็นต้น
ยาบรรเทาอาการไอทั้ง 3 กลุ่ม ไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนด้านความปลอดภัยของการใช้ยาในเด็กเล็กที่เพียงพอ
การรักษาอาการไอที่ดีที่สุด คือ การรักษาที่ต้นเหตุ รวมถึงหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นอาการ ควบคู่กับการดูแลตัวเองในเบื้องต้น เช่น จิบน้ำอุ่น กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง ทั้งนี้หากรับประทานยาแก้ไอไปแล้ว 2 สัปดาห์ แต่ไม่บรรเทาลง มีอาการหายใจลำบาก เจ็บหน้าอก ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาความผิดปกติอื่นที่อาจมีร่วมด้วย
ข้อมูลอ้างอิง
ภาวะไอเรื้อรังหลังการติดเชื้อ | โดยคณะเภสัชฯ ม.มหิดล (mahidol.ac.th)
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1193
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล (mahidol.ac.th)
ไอบอกโรค - โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย (chulalongkornhospital.go.th)
ไอ ใช้ยาอะไรดี | โดยคณะเภสัชฯ ม.มหิดล (mahidol.ac.th)
อาการไอ…รักษาง่ายนิดเดียว – โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี
ณ ศรีราชา (somdej.or.th)