พูดถึงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
สำหรับบางคนต้องรักษาด้วยยาเป็นหลัก และมักต้องใช้ยาหลายชนิดในการรักษา
รวมถึงต้องใช้ติดต่อเป็นเวลานาน
โรคความดันโลหิตสูง เป็นอีกหนึ่งในโรคที่ต้องใช้ยาในการรักษาหากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วยังไม่ดีขึ้น
การใช้ยาลดความดันโลหิตแพทย์จะพิจารณาจากค่าความดันโลหิต เฉลี่ยที่วัดได้จากสถานพยาบาล
รวมถึงโรคร่วมและระดับความเสี่ยงที่จะเกิดโรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด ของแต่ละบุคคล
การใช้ยาจึงต้องผ่านการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์เท่านั้น ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต
และควรทำความเข้าใจในการใช้ยา ดังนี้
1. ทำความเข้าใจข้อมูลของตัวยาที่ได้รับ ทั้งชื่อยา ขนาดยา รูปแบบยา วิธีการรับประทานยา การเก็บรักษา โดยมีข้อที่ควรทราบเกี่ยวกับการรับประทานยา
คือ ควรรับประทานยาต่อเนื่องทุกวันให้ตรงเวลา หากลืมรับประทานยา
และนึกขึ้นได้เมื่อใกล้มื้อถัดไป ให้รับประทานยาของมื้อนั้น
โดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า ห้ามหักแบ่ง บด
เคี้ยวยาที่มีการปลดปล่อยตัวยารูปแบบพิเศษให้ค่อย ๆ ปลดปล่อยตัวยา
เนื่องจากทำให้รูปแบบการปลดปล่อยตัวยาพิเศษเสียไป และทำให้ได้รับยาเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่สูงมากในครั้งเดียว
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยควรสอบถามกับแพทย์หรือเภสัชกรให้ชัดเจน
2. จดจำอาการข้างเคียงจากยา
ซึ่งบางครั้งอาจมีคำเตือนที่ซองยา โดยยาลดความดันโลหิตส่วนใหญ่อาจทำให้วูบ
ความดันตกขณะเปลี่ยนท่าทาง หน้ามืด ซึ่งอาจเกิดได้กับคนที่รับประทานยา
นอกจากนี้อาจพบอาการข้างเคียงเฉพาะของแต่ละตัวยา เช่น ไอแห้งเรื้อรัง เท้าบวม
ปัสสาวะบ่อย หอบหืดกำเริบ เป็นต้น โดยให้มาพบแพทย์ก่อนนัด
แต่ห้ามหยุดหรือลองปรับลดขนาดยาเอง
3. เพื่อป้องกัน “ยาตีกัน” หรือ “ปฏิกิริยาระหว่างยา” ไม่ว่าจะกับยาด้วยกันเอง อาหาร
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาอื่นร่วมด้วยทุกครั้ง
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีผลกับยาลดความดัน
ยาลดความดันโลหิต |
ยาอื่น/อาหาร/สมุนไพร |
ผลกระทบ |
Felodipine |
น้ำส้มโอ |
ทำให้ระดับยาในกระแสเลือดสูงขึ้น |
Methyldopa |
ธาตุเหล็ก |
ลดการดูดซึมยา Methyldopa ทำให้ออกฤทธิ์ลดความดันได้น้อยลง |
Enalapril
, Amlodipine |
บัวบก |
ทำให้ระดับยาลดความดันทั้ง 2 ชนิดในเลือดสูงขึ้น เพิ่มผลข้างเคียงหรือพิษจากยาลดความดัน |
Thiazide |
มะขามแขก |
เมื่อใช้ติดต่อเป็นเวลานานทำให้โพแทสเซียมในเลือดต่ำ
กล้ามเนื้ออ่อนแรง |
Verapamil
, Diltiazem |
Cimetidine (ยารักษาโรคกระเพาะ)
|
ลดการสลายของยาที่ตับ
เกิดการสะสมของยาลดความดัน |
4. ยาบางชนิดอาจเป็นสาเหตุให้ระดับความดันโลหิตสูงขึ้น เช่น ยาสเตียรอยด์ ยาแก้คัดจมูก ยาเม็ดคุมกำเนิด
ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เป็นต้น โดยผู้ที่รับประทานยาลดความดันโลหิต
ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเข้ารับการรักษาทุกครั้ง
เพื่อพิจารณาเลือกใช้ยาที่เหมาะสม 5. ในกรณีที่ยาหมดแต่ไม่สะดวกไปโรงพยาบาลหรือเลื่อนนัด ควรหาซื้อยาจากร้านขายยาที่มีเภสัชกร
ให้คำแนะนำและดูตัวยาที่ตรงกันให้ พร้อมนำแผงและซองยาเก่าไปด้วย
ไม่ควรปล่อยให้ขาดยาหรือหยิบยืมยาคนอื่นมาใช้
เนื่องจากยาบางอย่างมีรูปแบบแผงคล้ายกัน อาจทำให้สับสน ได้รับยาผิดชนิดหรือผิดขนาดได้
ข้อมูลอ้างอิง
https://mwi.anamai.moph.go.th/web-upload/migrated/files/mwi/n2282_ac719df7b56a7209d47c5e708693b279_article_20200115150126.pdf (P.46-47)
https://www.doctor.or.th/article/detail/3440
https://mwi.anamai.moph.go.th/web-upload/migrated/files/mwi/n2282_ac719df7b56a7209d47c5e708693b279_article_20200115150126.pdf
ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ใช้อย่างไร | โดยคณะเภสัชฯ ม.มหิดล (mahidol.ac.th)
http://mutualselfcare.org/medicine/medicative/antihypertensives.aspx?M=k&G=h
http://www.thaiheart.org/images/column_1563846428/Thai%20HT%20Guideline%202019.pdf
(P.19-23)
https://sriphat.med.cmu.ac.th/th/knowledge-698