
อย. ยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ได้มาตรฐาน Primary GMP กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานรากของประเทศให้เกิดความเข้มแข็งของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อเดินหน้าประเทศไทยไปสู่ Thailand 4.0 รุดนำสื่อล่องใต้ ร่วมกับ สสจ.ภูเก็ต ศึกษาดูงานหมู่บ้านผลิตเห็ดอินทรีย์ แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร โดยใช้นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมกับลงพื้นที่ดูงานการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารจากวัตถุดิบในท้องถิ่น สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญาไทย โดยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำวัตถุดิบภายในประเทศมาผลิตเป็นอาหาร รวมถึงเพิ่มศักยภาพให้ประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนคิดค้นนวัตกรรมด้านต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างโอกาสและรายได้ให้แก่ชุมชนในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน สนองนโยบายรัฐบาลที่จะนำพาประชาชนทั้งประเทศไปสู่โมเดล Thailand 4.0 ดังนั้น เพื่อให้เห็นถึงการดำเนินงานของสถานที่จริงในการผลิตอาหารด้วยนวัตกรรม ในวันที่ 27 เมษายน 2560 อย. จึงนำคณะสื่อมวลชนศึกษาดูงาน ณ หมู่บ้านผลิตเห็ดอินทรีย์ บ้านลิพอนหัวหาร-บ่อแร่ หมู่ 8 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้การผลิตก้อนเห็ดอินทรีย์ครบวงจร ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โดยใช้นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่งผลให้ชาวบ้านในชุมชนสามารถพึ่งพาตนเอง สร้างงาน สร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมทั้งยกระดับให้เห็ดอินทรีย์เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต ต่อยอดสู่การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารต่าง ๆ เช่น แหนมเห็ด วุ้นเห็ด น้ำเห็ดสกัด และไวน์เห็ด ส่งขายทั่วประเทศ ที่สำคัญเป็นสถานที่ผลิตอาหารที่ได้คุณภาพมาตรฐานตาม Primary GMP อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ระดับอยู่ดีกินดี ในปี 2554 และเมื่อปี 2557 หมู่บ้านเห็ดอินทรีย์นี้ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหมู่บ้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งแรกของจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนยังเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเห็ดและการเพาะเห็ด สร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน นำพาท้องถิ่นให้เจริญ พร้อมเดินหน้าประเทศเข้าสู่สังคม 4.0
เลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อไปว่า การล่องใต้ครั้งนี้ยังนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมกระบวนการผลิตอาหารพื้นเมืองภาคใต้ที่ผ่านมาตรฐาน GMP โดย อย. มีหน้าที่ในการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์อาหารให้ได้คุณภาพมาตรฐาน และมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร (GMP : Good Manufacturing Practice) ตั้งแต่การวางแผนการผลิต ระบบควบคุมตั้งแต่วัตถุดิบ ระหว่างการผลิต ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป การจัดเก็บ การควบคุมคุณภาพ และการขนส่งจนถึงผู้บริโภค มีระบบบันทึกข้อมูล ตรวจสอบและติดตามผลคุณภาพผลิตภัณฑ์ รวมถึงมีระบบการจัดการที่ดีในเรื่องสุขอนามัย ณ บริษัท พรทิพย์ (ภูเก็ต) จำกัด เลขที่ 108/1 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นสถานที่ผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปสมุนไพรเพื่อสุขภาพ เช่น น้ำพริกกุ้งเสียบ แกงไตปลาปรุงสำเร็จ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ซึ่งได้มาตรฐาน GMP , HACCP , ฮาลาล และรางวัลโอท็อป 5 ดาว ที่สำคัญยังคิดค้นพัฒนาและวิจัยทุเรียนจนเป็นผลิตภัณฑ์นวัตกรรม ทุเรียน 3 in 1 พร้อมชงดื่ม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แรกของประเทศ และเป็นสินค้าพรีเมี่ยมให้กับตลาดอาเซียนด้วย นอกจากนี้ ในปี 2010 ยังได้รับรางวัลพระราชทาน ชนะเลิศจากรัชกาลที่ 9 ประเภทรางวัลต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) แต่งตั้งให้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง และได้รับรางวัลชนะเลิศการออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ขนมโบราณชิโนโปรตุกีสระดับโลกยอดเยี่ยมจากประเทศญี่ปุ่นที่นำเสนอถึงอัตลักษณ์พื้นเมืองภูเก็ต ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ตราพรทิพย์มีวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดชั้นนำของประเทศไทย และยังมีการส่งออกไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย จีน และตะวันออกกลาง เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจให้ประเทศ ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งการส่งออกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อเกี่ยวกับ งานของ อย. ในส่วนของการกำกับดูแลคุณภาพมาตรฐานสถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพชุมชนตามมาตรฐาน Primary GMP เนื่องจากเห็นว่าผลิตภัณฑ์อาหารในท้องถิ่น ซึ่งเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) มีส่วนสำคัญในการผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนให้มีความเข็มแข็งอย่างยั่งยืน ได้ ทั้งนี้ อย. ได้ตั้งเป้าหมายในปี 2560 ที่จะพัฒนาสถานที่ผลิตอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่ายจำนวน 443 แห่งจาก 74 จังหวัด พร้อมทั้งจะพัฒนาสถานประกอบการที่มีความพร้อมในการเป็นต้นแบบสถานประกอบการแม่ข่ายในปีนี้ จำนวน 55 แห่งจาก 51 จังหวัด เพื่อเป็นต้นแบบศูนย์เรียนรู้ที่เป็นตัวอย่างที่ดี สามารถถ่ายทอดความรู้แก่สถานประกอบการอื่นที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติตามได้ นับเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ก้าวไกลสู่ครัวโลก ขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาไปสู่ Thailand 4.0 เกิดความ “มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”