
อย. เดินหน้าต่อเนื่อง จัดกิจกรรมบูรณาการให้กับครูแกนนำและนักเรียนในโครงการ อย. น้อย เพื่อรณรงค์ให้เกิดการพัฒนาพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) หวังให้นักเรียน อย. น้อย และชุมชนมีพฤติกรรมการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เหมาะสมปลอดภัย
นายแพทย์พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ได้แก่ โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็ง เบาหวานและโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตในลำดับต้น ๆ ของคนไทย เนื่องจากประชาชนออกกำลังกายน้อยลง รับประทานแต่อาหารรสจัด หวาน มัน เค็ม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงได้เร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความรู้แก่เยาวชน ผ่านโครงการ อย. น้อย เพื่อรณรงค์ ให้เกิดความปลอดภัยในการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพในโรงเรียน โดยได้มีการรณรงค์ต่อเนื่องถึงปัจจุบันเป็น ปีที่ 15 มีสมาชิก อย. น้อย หมุนเวียนในแต่ละปีประมาณ 300,000 คน จาก 12,570 โรงเรียน ซึ่ง อย. ได้พยายามพัฒนารูปแบบและเพิ่มช่องทางการรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพต่าง ๆ ให้ทันสมัย โดยผ่านการใช้สื่อ Social Media ได้แก่ Facebook, Twitter, เว็ปไซต์ต่าง ๆ และ Oryor Smart Application เพื่อให้กลุ่มเยาวชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสามารถตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์เบื้องต้นได้ด้วยตนเอง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2560 นี้ อย. ได้จัดงานมหกรรม อย. น้อย ครบรอบ 15 ปี มีกิจกรรมสาระความรู้ให้ครูแกนนำ และนักเรียน อย. น้อย ได้ร่วมสนุก โดยแบ่งเป็นการเข้าฐานกิจกรรมต่าง ๆ แลกเปลี่ยนเรียนรู้พฤติกรรมการบริโภคอาหาร เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ถูกต้องให้กับนักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รู้เท่าทันโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง และการอ่านฉลาก ยา และเครื่องสำอางก่อนซื้อหรือใช้ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค NCDs รวมทั้งมีฐานกิจกรรม อย. น้อย สร้างอาชีพ เพื่อแนะนำอาชีพต่าง ๆ ให้นักเรียน อย. น้อย ได้รู้จักและเลือกทางเดินในอนาคต โดยกิจกรรมจัดขึ้นในวันที่ 3 – 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 ณ โรงแรมเอเชียพัทยา จังหวัดชลบุรี
รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า กิจกรรมในครั้งนี้ อย. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ครูแกนนำ และนักเรียน อย. น้อย จะได้รับความรู้และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารในชีวิตประจำวัน สามารถนำไปเผยแพร่ให้กับครอบครัวและชุมชน ให้มีพฤติกรรมในการเลือกบริโภคอาหารได้อย่างถูกต้องเหมาะสม นำไปสู่การมีสุขภาพที่ดีต่อไป