
อย. ติวเข้ม เจ้าหน้าที่ตรวจประเมินสถานที่ผลิตอาหาร จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการแนวทางในการตรวจประเมินตามมาตรฐานสากล ISO 19011:2011 ณ ห้องบอลรูม (ชั้น 1) โรงแรมนารายณ์ กรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในการตรวจประเมินตามเกณฑ์ของกฎหมาย ให้บุคลากร มีความเป็นเลิศในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพและการบริการด้านสุขภาพ อย่างมีประสิทธิภาพ
นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นหน่วยงานหลักในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านการกำกับดูแลมาตรฐานการผลิตอาหาร มุ่งหวังให้ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความปลอดภัย โดยประยุกต์ใช้หลักการ การประกันคุณภาพด้านความปลอดภัยของอาหารตามมาตรฐานสากลที่เรียกว่า GMP (Good Manufacturing Practice) มาใช้เป็นมาตรฐานตามกฎหมายด้านสุขลักษณะการผลิตที่ดีของสถานที่ผลิต ทุกระดับ รวมถึงผู้ประกอบการผลิตอาหารขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจ ในความปลอดภัย นอกจากนี้ควรมีการนำมาตรฐานการตรวจประเมินระบบบริหารจัดการตามแนวปฏิบัติ ISO 19011:2011 ซึ่งเป็นมาตรฐานเกี่ยวกับแนวทางในการตรวจประเมิน (Audit) มาประยุกต์ใช้ในการตรวจประเมินสถานประกอบการอาหารต่าง ๆ ตามเกณฑ์ของกฎหมาย เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ อย. ได้เห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจประเมิน ให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และทักษะในการตรวจประเมิน พัฒนาความสามารถของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานคุ้มครองผู้บริโภค จึงได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “แนวทางในการตรวจประเมินตามมาตรฐานสากล ISO 19011:2011” โดยมีการชี้แจงข้อกำหนดและขั้นตอนของการตรวจประเมินตามมาตรฐานสากล มีกิจกรรมการฝึกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เพื่อยกระดับผู้ตรวจประเมินให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้นและเป็นสากล อันจะทำให้การปฏิบัติงานมีความชัดเจน เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งจัดอบรมในวันที่ 26-27 มีนาคม 2561 เวลา 9.00-16.30 น. ณ ห้องบอลรูม (ชั้น 1) โรงแรมนารายณ์ กรุงเทพมหานคร มีผู้เข้าร่วมอบรมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด 76 จังหวัด รวม 152 คน และเจ้าหน้าที่ อย. จำนวน 78 คน รวมทั้งสิ้น 230 คน
รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า การอบรมในครั้งนี้ อย. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มศักยภาพของเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฏิบัติงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านอาหาร เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการดำเนินงาน และบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก