
อย. ได้จัดทำระบบใหม่ “ถ่ายโอนข้อมูลใบรับแจ้ง” เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและรวดเร็วให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับใบรับแจ้งตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535 ที่ประสงค์จะผลิตเพื่อขายหรือนำเข้าเพื่อขายเครื่องสำอางต่อไป ให้มาดำเนินการจดแจ้งใหม่ โดยการถ่ายโอนข้อมูลจากระบบเดิมเข้าสู่ระบบใหม่(Privus)ซึ่งจะประมวลผลอัตโนมัติ หากข้อมูลสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การรับจดแจ้งในปัจจุบัน ระบบจะอนุมัติให้ทราบผล ได้ในทันที และได้รับใบรับจดแจ้งใหม่ เลขที่เดิม ที่ออกตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ซึ่งมีอายุต่อไปได้อีก 3 ปี นับจากวันที่ออกใบรับแจ้งนั้น โดยสามารถมาดำเนินการได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 8 กันยายน 2561
เภสัชกรสมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 กำหนดให้ผู้ที่ได้รับใบรับแจ้งเครื่องสำอางควบคุมที่ออกตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535 สามารถใช้ใบรับจดแจ้งต่อไปได้อีก 3 ปี นับตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ ดังนั้น ใบรับแจ้งที่ออกตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535 ดังกล่าว จำนวนประมาณ 400,000 ฉบับ จะสิ้นสภาพลงในวันที่ 8 กันยายน 2561 เพื่ออำนวยความสะดวกและป้องกันมิให้ผู้ประกอบการมาจดแจ้งใหม่กันอย่างคับคั่งในช่วงเดือนสิงหาคม – กันยายน 2561 อีกทั้งยังมีผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ประสงค์จะใช้ฉลากเดิม เลขที่ใบรับแจ้งเดิม ทาง อย. จึงได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าว โดยได้จัดทำเมนู “ถ่ายโอนข้อมูลใบรับแจ้ง” เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและรวดเร็วให้กับผู้ประกอบการที่ประสงค์จะผลิตเพื่อขายหรือนำเข้าเพื่อขายเครื่องสำอางดังกล่าวต่อไป สามารถมาถ่ายโอนข้อมูลใบรับแจ้ง ซึ่งจากเดิมอยู่ในระบบ E - Logistic (Hello) มาเข้าสู่ระบบ E – submission (Privus) โดยระบุรายละเอียดให้ชัดเจนขึ้น ผ่านระบบ Privus ซึ่งจะประมวลผลอัตโนมัติ หากข้อมูลสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การรับจดแจ้งในปัจจุบัน ระบบจะอนุมัติให้ทราบผลได้ในทันที และได้รับใบจดแจ้งใหม่ที่ออกตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 โดยได้รับเลขที่เดิม และสามารถใช้ต่อไปได้อีก 3 ปี นับจากวันที่ออกใบรับแจ้งนั้น ทั้งนี้ ใบรับแจ้งที่ไม่สามารถใช้เลขที่เดิมต่อไปมีด้วยกัน 2 กลุ่ม คือ ใบรับแจ้งผลิตเครื่องสำอาง (แบ่งบรรจุ) และใบรับแจ้งผลิต(เฉพาะเพื่อการส่งออก) ซึ่งเคยได้รับเลขที่ใบรับแจ้ง 10-1-xxxxxxx
อนึ่ง ใบรับจดแจ้งเครื่องสำอางที่ออกตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2558 เป็นต้นไป และข้อมูลการรับแจ้งอยู่ในระบบ Hello ผู้ประกอบการสามารถถ่ายโอนข้อมูลให้มาอยู่ในระบบ Privus ไว้ก่อนได้ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่กระบวนการต่ออายุใบรับจดแจ้ง ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขในการต่ออายุใบรับจดแจ้ง ซึ่งจะออกเป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุขต่อไป ดังนั้น ขอให้รีบดำเนินการถ่ายโอนข้อมูลใบรับจดแจ้งเครื่องสำอางได้ตั้งแต่บัดนี้อย่ารอจนใกล้ถึงวันที่ 8 กันยายน 2561 โดยเข้าไปที่เมนู “ถ่ายโอนข้อมูลใบรับแจ้ง” ที่เว็บไซต์ http://www.fda.moph.go.th/Cosmetic/รองเลขาธิการ อย. กล่าวในที่สุด