
อย. เตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์เสริมความงามผิดกฎหมาย หวั่นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต หลังเจ้าหน้าที่ อย. ร่วมกับ กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำกำลังบุกจับสินค้าประเภทโบท็อกซ์ อ้างฉีดให้ใบหน้าเรียวเล็ก ลักลอบจำหน่ายทางเว็บไซต์ ยึดของกลางได้กว่า 2 หมื่นชิ้น
เภสัชกรสมชาย ปรีชาทวีกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการโฆษณาอวดอ้างฉีดสารเคมีประเภทต่าง ๆ เข้าสู่ผิวหน้า จำพวก โบท็อกซ์ กลูตาไธโอน เพื่อลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ปรับรูปหน้า ยกกระชับบริเวณหย่อนคล้อยบนใบหน้า และทำให้มีผิวขาวขึ้น ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวนี้เองที่ทำให้ผู้บริโภคหลงเชื่อไปใช้บริการโดยไม่ได้คำนึงถึงผลเสียที่อาจเกิดต่อร่างกาย เช่น เสียโฉม หรืออาจจะเกิดภาวะช็อก และอาจถึงขั้นเสียชีวิต หรือบางรายฉีดสารต่อเนื่องเป็นเวลานานได้รับผลข้างเคียงทำให้ตัวซีด ตาเหลือง เอนไซม์ในตับสูง ล่าสุด พบการลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาเสริมความงามผิดกฎหมายผ่านทางเว็บไซต์ชื่อ www.gluta2u.com ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 อย.จึงร่วมกับ เจ้าหน้าที่กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำกำลังเข้าตรวจค้นสถานที่จัดเก็บสินค้า ในเขตกรุงเทพมหานคร จากการตรวจสอบพบสินค้าประเภทยารักษารอยย่นโบท็อกซ์ (BOTOX) และยาเสริมความงามยี่ห้ออื่น ๆ จำนวนมากกว่า 2 หมื่นชิ้น เช่น placenta lucchini , laennec inj , meso white radiance เป็นต้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางและแจ้งข้อหากับผู้ต้องหา อาทิ เสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท ขายหรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท ขายหรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
รองเลขาธิการ ฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า ยาเสริมความงามปลอมต่าง ๆ ที่จำหน่ายทางเว็บไซต์ เช่น กลูต้าไธโอน รวมทั้งยารักษารอยย่นโบท็อกซ์ (BOTOX) ซึ่งมักใช้ในการฉีดหรือนำเข้าสู่ร่างกายโดยตรง อาจทำให้เกิดอันตรายต่อระบบอวัยวะต่าง ๆ ได้อย่างรุนแรงเฉียบพลัน เช่น ทำให้ใบหน้าผิดรูป ตาบอด หรืออาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคได้ในระยะยาว รวมทั้งอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ อย. ขอย้ำเตือนผู้บริโภคให้ใช้วิจารณญาณในการเลือกซื้อ อย่าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อซื้อสินค้าที่ไม่มีหลักแหล่ง โดยเฉพาะในสื่อออนไลน์หรือโฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณเกินความจริง เพราะผลิตภัณฑ์ประเภทเสริมความงามเหล่านี้จะต้องใช้โดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น ทั้งนี้ หากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผ่านเว็บไซต์ และ Social Media ขอให้แจ้งมาได้ที่ อย. โดยตรงทางสายด่วน อย. 1556 หรือร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ