ปฏิบัติการ ยุทธการสยบไพรี 62/17 “ยาสวย...สังหาร 2” ปิดล้อม 16 จุดทั่วประเทศ
1 สิงหาคม 2562

           กระทรวงสาธารณสุข โดย อย. ร่วมกับ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)  ใช้ยุทธการสยบไพรียาสวย...สังหาร ครั้งที่ 2 โดย ปิดล้อมเครือข่ายขบวนการลักลอบนำยาลดน้ำหนักออกนอกระบบ 16 จุดทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัด พบมีแพทย์เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว 5 ราย และนำไปขายให้กับนายทุน ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกันที่เคยถูกจับกุมไปแล้วเมื่อ 11 มี.ค.62 ที่ผ่านมา เตือนแพทย์อย่านำยาออกนอกระบบ มีโทษหนักทั้งจำและปรับ และจะส่งเรื่องให้แพทยสภาพิจารณาจริยธรรมด้วย

          ตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งให้ความสำคัญในการปราบปรามผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เป็นอันตรายกับประชาชน ได้มอบหมายให้ นายแพทย์ธเรศ  กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นำทีมโดย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ   ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบนำยาลดน้ำหนักที่จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ตัวยา Phentermine (เฟนเตอร์มีน) ออกนอกระบบได้สนธิกำลังร่วมกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ทำการปิดล้อมและตรวจค้นเครือข่ายลักลอบนำยาลดน้ำหนักออกนอกระบบ 16 จุดทั่วประเทศ โดย อย. ได้ร่วมตรวจค้น 8 จุด เป็นสถานพยาบาล 6 แห่ง และบ้านนายทุน 2 แห่ง ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และ พิจิตร  ในการปฏิบัติการครั้งนี้ พบมีแพทย์ที่เกี่ยวข้องจำนวน 5 ราย มีพฤติการณ์ในการนำยาลดน้ำหนักออกนอกระบบ ในจำนวนนี้มี 1 ราย เป็นผู้สั่งซื้อยาและมารับยาด้วยตนเอง รวมถึงมีพฤติการณ์จัดหาแพทย์รายอื่น ๆ ให้มาสั่งซื้อยาจาก อย. แล้วนำไปขายให้แก่นายทุน

           นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ กล่าวต่อไปว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้สืบเนื่องจาก อย. ได้มีการติดตามและพบพฤติการณ์ผิดปกติจากผู้แทนซึ่งมารับยาให้หลาย ๆ คลินิกที่อยู่ในต่างจังหวัดในคราวเดียวกัน จึงได้ร่วมกับ บช.ปส. ในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงจนทราบว่าเครือข่ายฯ ได้มีการนำยาลดน้ำหนัก (เฟนเตอร์มีน) ออกนอกระบบ โดยมีการส่งยาให้แก่แพทย์รายหนึ่งที่จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นการอำพรางเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ เมื่อยาไปถึงจังหวัดพิษณุโลกแล้ว ไม่มีการนำยาไปใช้ในสถานพยาบาล แต่ได้นำยาส่วนหนึ่งส่งย้อนกลับมาให้แก่นายทุนที่กรุงเทพฯ  ยาในส่วนนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้แล้ว เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562 สำหรับยาอีกส่วนหนึ่ง ได้ส่งไปให้นายทุนรายใหญ่ที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นนายหน้าขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตรวจสอบและขยายผลจับกุม การตรวจค้นเครือข่ายฯ ในครั้งนี้พบว่า มีความเชื่อมโยงกับนายทุน และคนที่ทำหน้าที่จัดทำเอกสาร ซึ่งเคยถูกจับกุมจากปฏิบัติการยุทธการสยบไพรี “ยาสวย สังหาร” เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นขบวนการเครือข่ายที่นำยาลดน้ำหนัก (เฟนเตอร์มีน) ออกนอกระบบเครือข่ายเดียวกัน การกระทำดังกล่าว มีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 ขายวัตถุออกฤทธิ์ฯ ในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000 – 2,000,000 บาท

           ทั้งนี้ ยาลดน้ำหนักเฟนเตอร์มีน จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ที่ อย. เป็นผู้จำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะขายให้แก่แพทย์ผู้ได้รับอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 เท่านั้น เนื่องจากยาดังกล่าว สามารถทำกำไรเมื่อนำไปขายในตลาดมืดได้หลายเท่า จึงเป็นเหตุจูงใจที่กลุ่มนายทุน ต่าง ๆ ลักลอบนำยาออกนอกระบบไปขายให้แก่ประชาชน จึงขอย้ำเตือนแพทย์ให้ระมัดระวังการใช้ยาลดน้ำหนัก โดยต้องจ่ายให้แก่ผู้ป่วยที่ตนให้การรักษาในสถานพยาบาลเท่านั้น และอย่าตกเป็นเครื่องมือของเครือข่ายลักลอบนำยาลดน้ำหนักออกนอกระบบ  หากพบว่ามีแพทย์ท่านใดร่วมขบวนการจะถูกดำเนินคดีถึงที่สุด และจะส่งเรื่องให้แพทยสภาเพื่อพิจารณาจริยธรรมต่อไป อีกทั้ง ประชาชนต้องได้รับการสั่งจ่ายยาลดน้ำหนักดังกล่าวจากแพทย์ในสถานพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากหากใช้ไม่ถูกต้องอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ เลขาธิการฯ กล่าวในที่สุด

คลังรูปภาพ
แท็กที่เกี่ยวข้อง
ผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมาย
วัตถุเสพติด
ข่าวแจ้งเตือน
ผิดกฎหมาย
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์
บช.ปส.
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ