
อย. ร่วม กองปราบฯ และสมอ. ทลายแหล่งลักลอบนาเข้าและแบ่งบรรจุถุงมือทางการแพทย์เถื่อน ย่านปทุมธานี ผลการตรวจค้น พบเป็นโรงงานเถื่อนที่ลักลอบนาเข้าถุงมือมาแบ่งบรรจุแล้วส่งออกไปต่างประเทศ จึงยึดของกลางทั้งหมดเป็นถุงมือบรรจุกล่องพร้อมส่งกว่า 9,200 กล่อง ถุงมือรอการบรรจุและกล่องเปล่าอีกมหาศาล รวมมูลค่ากว่า 300 ล้าน พร้อมเร่งขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการต่อไป
วันนี้ (25 ธันวาคม 2563) กองบังคับการปราบปราม สานักงานตารวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ. บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., ว่าที่ พ.ต.อ. วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท. สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รอง ผกก.3 บก.ป. สานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข โดย ภญ. สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และสานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม โดย นายธัชชัย หนูสวัสดิ์ นักวิชาการมาตรฐานชานาญการ ร่วมกันแถลงผลการทลายแหล่งลักลอบนาเข้าและแบ่งบรรจุถุงมือทางการแพทย์ ย่านปทุมธานี สรุปผลดังนี้
ตามที่กองบังคับการปราบปรามได้รับแจ้งว่ามีแรงงานต่างด้าวลักลอบทางาน ณ โรงงานผลิตถุงมือแห่งหนึ่งย่านจังหวัดปทุมธานี จึงได้ประสาน อย. และ สมอ. เข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว เลขที่ 92/13 หมู่ที่ 5 ถนนลาลูกกา ตาบลลาลูกกา อาเภอลาลูกกา จังหวัดปทุมธานี จากการตรวจค้นพบเป็นโรงงานเถื่อน มีแรงงานต่างด้าวจานวนหนึ่งกาลังช่วยกันบรรจุถุงมือไม่ได้มาตรฐานลงกล่อง พบถุงมือที่บรรจุลงกล่องสวมยี่ห้อต่าง ๆ เพื่อรอส่งไปขายในต่างประเทศกว่า 9,200 กล่อง พร้อมถุงมือที่รอการบรรจุและกล่องเปล่าอีกเป็นจานวนมาก เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางไว้ทั้งหมด รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท และเก็บตัวอย่างถุงมือส่งตรวจวิเคราะห์ หากพบว่าผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพหรือไม่มีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายกาหนดจะดาเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นความผิดในเบื้องต้น ตามพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ดังนี้ ฐานไม่จดทะเบียนสถานประกอบการผลิต/นาเข้าเครื่องมือแพทย์ และฐานผลิต/ขายเครื่องมือแพทย์ปลอม และไม่ปลอดภัยในการใช้ มีโทษสูงสุด ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 อีกด้วย
พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผู้บังคับการตารวจกองปราบปราม กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ ทาให้ผู้ประกอบการที่ขาดคุณธรรมฉวยโอกาสลักลอบนาเข้าหรือผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพในกลุ่มป้องกันโรคโควิดโดยไม่คานึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้มาจาหน่าย ซึ่งอาจทาให้พี่น้องประชาชนได้รับอันตราย สาหรับการจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบนาเข้าถุงมือยางบรรจุกระสอบแล้วนามาแบ่งบรรจุใส่กล่องโดยสวมยี่ห้อต่าง ๆ โดยไม่ได้ขออนุญาต และลักลอบใช้แรงงานต่างด้าวเถื่อนเป็นการกระทาความผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะร่วมกันขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการและดาเนินคดีจนถึงที่สุด
เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวต่อไปว่า ถุงมือทางการแพทย์มีวัตถุประสงค์สาหรับใช้ป้องกันการปนเปื้อนระหว่างผู้ป่วยและผู้ใช้ในการตรวจวินิจฉัยหรือรักษาโรคและใช้สาหรับการจับหรือสัมผัสกับวัสดุทางการแพทย์ที่อาจปนเปื้อน ฉะนั้น ผู้ผลิตและผู้นาเข้าจะต้องขออนุญาตกับ อย. ก่อน รวมถึงตัวผลิตภัณฑ์ต้องมีคุณภาพมาตรฐานตามที่กฎหมายกาหนด ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้เป็นรายเดิมที่ อย. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตารวจสืบสวนและแถลงข่าวผลการจับกุมไปก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นการทาลายภาพลักษณ์และชื่อเสียงของประเทศไทย เจ้าหน้าที่จะสืบสวนต่อไปว่ามีการปลอมแปลงเอกสารทางราชการเกี่ยวกับการได้รับอนุญาตหรือได้รับใบรับรองการส่งออกหรือไม่ เพื่อดาเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขอเตือนผู้ที่กาลังหาสินค้าพวกถุงมือทางการแพทย์เพื่อส่งออกไปขายต่างประเทศว่า ขณะนี้มีขบวนการหลอกลวงมากมาย จึงขอแนะนาให้ตรวจสอบการได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อน ทางเว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หรือสายด่วนอย. 1556 ก่อน มิฉะนั้น ท่านอาจจะเสียเงินโดยได้รับของที่ไม่มีคุณภาพ อาจโดนปฏิเสธสินค้าได้ หากพบการลักลอบผลิต นาเข้า จาหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556 หรือเดินทางมาร้องเรียนที่ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทาผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) ได้ทุกวันในเวลาราชการ