นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการเคร่งครัดให้ อย. สกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพและผิดกฎหมายจากต่างประเทศ
โดยมุ่งเน้นการควบคุมมาตรฐานสินค้า เพื่อปกป้องคุณภาพ ชีวิตประชาชน
จากการบริโภคสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ ยกระดับการดำเนินคุณภาพชีวิตคนไทย
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 เภสัชกรเลิศชาย
เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมประชุมกับผู้แทนจากกรมศุลกากร ผู้แทนจากบริษัท
ไปรษณีย์ไทย จำกัด และผู้แทนจากบริษัทขนส่งเอกชน เร่งผลักดันมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคในการป้องกันสินค้านำเข้าที่ผิดกฎหมาย
เพื่อยกระดับมาตรการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายที่อยู่ในท้องตลาด
อันจะส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
โดยมาตรการดังกล่าวจะมีการเฝ้าระวังผู้นำเข้าที่มีประวัติการกระทำผิดกฎหมาย
หรือเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพนำเข้ามาจำหน่ายในท้องตลาดที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบผู้นำเข้าหรือสินค้าที่มีความเสี่ยงได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น
โดยจะดำเนินการเปิดตรวจตู้สินค้า เพื่อตรวจสอบสินค้าอย่างเข้มงวด
ควบคุมการจัดทำฉลากสินค้าให้ถูกต้องก่อนการจำหน่าย ในส่วนของมาตรการเฝ้าระวังการนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
และติดตัว อย.จะพิจารณาปรับลดปริมาณ
และจำกัดความถี่ของการนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อใช้เฉพาะตัว
ซึ่งจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลการนำเข้าร่วมกับไปรษณีย์ไทย และกรมศุลกากร
สำหรับการนำเข้าเครื่องมือแพทย์เพื่อใช้เฉพาะตัว
ผู้นำเข้าต้องยื่นใบรับรองแพทย์ต้นฉบับที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน
นับจากวันที่ออกใบรับรองแพทย์ ประกอบการนำเข้าด้วย นอกจากนี้ อย. จะมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้อง
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังตามมาตรการดังกล่าวอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กองด่านอาหารและยาเป็นแกนในการประสานความร่วมมือ
และเน้นย้ำถึงมาตรการให้ทั้ง 52 ด่าน ทั่วประเทศถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
รองเลขาธิการฯ อย.
กล่าวในตอนท้ายว่า อีกด้านหนึ่ง ทาง อย ได้หารือกับสถานทูตเพื่อพัฒนาให้สินค้าที่นำส่งมาประเทศไทยมีคุณภาพมาตรฐานตามที่ประเทศไทยกำหนด
โดยยึดความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นหลัก และมุ่งเน้นความเสมอภาคในการประกอบธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกับภาคีเครือข่ายในการเฝ้าระวังการนำเข้าสินค้า