อย. จับมือ บก.ปคบ. บุกทลายโรงงานผลิตยาผิดกฎหมายย่านบางขุนเทียน ส่งขายตามแนวชายแดนไทยหลายรายการ ทั้งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทปลอม และยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ยึดและอายัดของกลาง รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้สืบทราบว่ามีการลักลอบผลิตยาผิดกฎหมายย่านบางขุนเทียน อย. จึงได้ประสานงานไปยัง บก.ปคบ.ขอหมายค้นเข้าตรวจสอบโรงงานยาที่ได้สืบทราบว่าผลิตยาผิดกฎหมาย ชื่อ บริษัท โรงงานเภสัชกรรมเรมี่ฟาร์ม จำกัด ตั้งอยู่ที่ 141 / 11 หมู่ 6 ถ.บางขุนเทียน เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงงานยาขนาดใหญ่โดยมีผู้ดำเนินกิจการ ชื่อ นางสาวพัณณ์ชิตา สิทธิกุลชัยโย และจากการตรวจสอบพบว่าโรงงานดังกล่าวไม่ได้มาตรฐานจีเอ็มพี และผลิตยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ส่งขายตามร้านค้าส่งย่านจังหวัดตามแนวชายแดนของประเทศไทย ซึ่งผลิตภัณฑ์ยาและวัตถุออกฤทธิ์ที่ตรวจพบผิดกฎหมาย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เลขทะเบียนยาปลอม ยาไม่มีเลขทะเบียน ไม่มีชื่อผู้ผลิต ระบุเพียง Made in Thailand ผลิตภัณฑ์ที่ใช้เลขทะเบียนผู้อื่น เครื่องหมายปลอม แจ้งสถานที่จัดจำหน่ายไม่มีตัวตน ผลิตภัณฑ์วัตถุออกฤทธิ์ฯ ปลอมเครื่องหมายการค้า วัตถุออกฤทธิ์ฯ ไม่มีทะเบียน ไม่มีชื่อผู้ผลิต ระบุเพียง Made in Thailand
นอกจากนี้ อย. ยังได้รับแจ้งว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายยาแผนปัจจุบันที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาที่บ้านเลขที่ 20/7 ซอยแม้นศรี 2 ถ.บำรุงเมือง แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ จึงวางแผนจับกุมโดยติดต่อล่อซื้อยา Nolvadex-D ซึ่งเป็นยารักษาโรคมะเร็งเต้านม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ อย. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ได้นำกลุ่มซุ่มอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบบุคคลต้องสงสัยซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า นายดำรงเกียรติ์ โชคชัยพิทักษ์ จึงแสดงตนเข้าตรวจสอบ พบยาแผนปัจจุบัน Nolvadex-D จำนวน 3 กล่อง, รายการสั่งซื้อพร้อมราคายาและนามบัตร ซึ่งผู้ต้องสงสัยให้การรับสารภาพว่าเป็นยาที่ลูกค้าซื้อและกำลังจะนำไปส่งให้ลูกค้า ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ อย. และตำรวจ บก.ปคบ. ได้นำหมายค้นศาลแขวงดุสิต ที่ค.50/2553 ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2553 เข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นของนายดำรงเกียรติ์ พบยาแผนปัจจุบันที่มีทะเบียนตำรับยา จำนวน 29 รายการ, ยาแผนปัจจุบันที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา จำนวน 10 รายการ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลาง พร้อมอายัดวัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิต เครื่องตอก เครื่องโม่ และเครื่องจักรในการผลิตทั้งหมดในโรงงานดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำผิดในกรณีโรงงานเภสัชกรรมเรมี่ฟาร์ม จำกัด 7 ข้อหา ดังนี้
1. กรณีผลิตและขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. กรณีผลิตยาปลอม มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 3 ปี – ตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 10,000 -50,000 บาท
3. กรณีขายยาปลอมมีโทษจำคุก ตั้งแต่ 1 ปี – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท
4. กรณีผลิตและขายวัตถุออกฤทธิ์ฯ ประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท
5. กรณีผลิตภัณฑ์ออกฤทธิ์ฯ ปลอมมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี -15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 – 300,000 บาท
6. กรณีขายวัตถุออกฤทธิ์ฯ ปลอมมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท
7. กรณีผลิตยาแผนปัจจุบันโดยฝ่าฝืนกฎกระทรวงฯ และประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ มีโทษปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท
ส่วนกรณีนายดำรงเกียรติ์ โชคชัยพิทักษ์ ผู้ลักลอบจำหน่ายยาแผนปัจจุบันที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาที่บ้านเลขที่ 20/7 ซอยแม้นศรี 2 ถ.บำรุงเมือง แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ อย. ได้แจ้งข้อหาแก่ผู้กระทำผิด 4 กรณี ดังนี้
1. กรณีขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
2. กรณีขายหรือนำเข้ายาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3. กรณีขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท
4. กรณีครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้น อย. ขอเตือนมายังผู้ผลิตยาแผนปัจจุบันและวัตถุออกฤทธิ์ทุกรายอย่าได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายในการผลิตยาหรือวัตถุออกฤทธิ์ใดใดที่มิได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง ที่สำคัญควรมีคุณธรรม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม และขอเตือนผู้บริโภคอย่าได้หลงเชื่อซื้อยาบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้จำหน่ายในสถานพยาบาลหรือร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง เพราะเป็นการเสี่ยงต่อการได้รับยาปลอม และยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ขอให้ผู้บริโภคช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับ อย. หากพบเห็นผลิตภัณฑ์ที่คาดว่าผิดกฎหมาย ทาง อย. จะมีสินบนรางวัลนำจับให้ผู้แจ้งเบาะแส ขอให้แจ้งมายังสายด่วน อย. 1556 หรือ อีเมลล์ 1556@fda.moph.go.th หรือส่งจดหมายไปที่ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือแจ้งเบาะแสได้ด้วยตนเองที่ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ตึก อย. อาคาร 1 ชั้น 1 ในวันและเวลาราชการ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด