จากนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพประกอบกับที่ อย.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชมรมเจแห่งประเทศไทย ให้ตรวจสอบอาหารเจ เนื่องจากสงสัยสัยว่ามีการลักลอบผสมเนื้อสัตว์
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอาหารเจที่ขายในท้องตลาดจำนวน 18 รายการ ผลพบมี DNA ของเนื้อสัตว์ในอาหารเจจำนวน 2 รายการ ได้แก่ กุ้งส้มเล็กเจ เลขสารบบอาหาร 10-3-05445-1-0001 และลูกชิ้นปูอัดเจ เลขสารบบอาหาร 10-3-05445-1-0066 โดยมีบริษัท อาหารเจหยงฝั้น จำกัด เป็นผู้ผลิตและนำเข้าอาหารเจ อย.จึงร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าตรวจค้นบริษัทดังกล่าวบริเวณเขตบางขุนเทียน ตรวจสอบพบอาหารเจไม่ถูกต้องตามกฎหมายในตู้คอนเทนเนอร์ ได้แก่ กุ้งส้มเล็กเจ ลูกชิ้นปูอัดเจ ลูกชิ้นเอ็นหมูเห็ดหอมเจ เลขสารบบอาหาร 10-3-05445-1-0009 ซึ่งทั้ง 3 รายการนี้เคยมีประวัติตรวจพบ DNA ของเนื้อสัตว์ นอกจากนี้ ยังพบอาหารเจที่แสดงฉลากไม่ถูกต้องอีกกว่า 20 รายการ และพบการผลิตอาหารเจที่ฉลากแสดงเป็นอาหารที่นำเข้า คือ ลูกชิ้นเห็ดหอมเจ เลขสารบบอาหาร 10-3-005445-1-0027
นอกจากเข้าตรวจสอบที่ตั้งบริษัทที่ผลิตอาหารในเขตบางขุนเทียนแล้ว ยังเข้าตรวจสอบสถานที่เก็บอาหารเจของบริษัทดังกล่าวในจังหวัดสมุทรสาคร โดยตรวจพบอาหารเจที่แสดงฉลากไม่ถูกต้องกว่า 17 รายการ รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคในการเลือกซื้ออาหาร ควรมองหาฉลากโภชนาการ และสังเกตรายละเอียด เช่น เลขสารบบอาหาร ในเครื่องหมาย อย. ชื่ออาหาร ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิต ปริมาณสุทธิ วันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุ แต่อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคไม่ควรคำนึงแค่ว่ามีเครื่องหมาย อย. หรือไม่ แต่สิ่งที่จำเป็นนั่นก็คือการอ่านข้อมูลที่ระบุอยู่บนฉลากเพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้พิจารณาตัดสินใจเลือกซื้อ และควรมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกรณีอาหารบางประเภท
ทั้งนี้ อย. ยังคงเฝ้าระวังผู้ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และขอให้ผู้บริโภคช่วยเป็นหูเป็นตาเพราะหากพบเห็นการผลิต การจำหน่าย และการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่หลอกลวง สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือร้องเรียนได้ด้วยตัวเองที่ศูนย์เฝ้าระวังและ รับเรื่องร้องเรียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ อย. อาคาร 1 ชั้น 1 ในวันเวลาราชการ เพื่อ อย.จะได้ติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป