
ปฏิบัติการเข้ม ถึงคิวเชือดผลิตภัณฑ์วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือนผิดกฎหมาย อย. รุดจับมือ ตำรวจ บก.ปคบ. บุกตรวจสอบแหล่งผลิต/นำเข้า/จำหน่าย “ยาจุดกันยุง” หลังรับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคและสสจ.พิจิตร แห่งแรกพบ บ.หลาน ไค ซิน หยวน ฟา จก. นำเข้ายาจุดกันยุง ตรา LaoJun โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและแห่งที่ 2 พบ ยาจุดกันยุง ตรา goldeer แสดงฉลากไม่ถูกต้อง ไม่มีฉลากภาษาไทย ยึดของกลางจำนวนมาก พร้อมกับตรวจค้นโกดังย่านบางขุนเทียน พบซีอิ๊วเห็ดหอมฮ่องกง ตรา OHYE สวมทะเบียนปลอมไม่ตรงกับที่ขอขึ้นทะเบียน ยึดของกลางทั้งหมด มูลค่ากว่า 7 แสนบาท แจ้งความผิดหลายข้อหาทันที มีโทษทั้งจำและปรับ เตือนผู้บริโภคอย่าซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น ตามตลาดนัด หรือรถเร่ขายสินค้า แผงลอยต่าง ๆ ที่โฆษณาโอ้อวดสรรพคุณ เพราะอาจได้รับผลิตภัณฑ์ที่อาจลักลอบนำเข้า หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจาก อย. ที่สำคัญอาจได้รับสารอันตรายที่ปลอมปนใส่ในผลิตภัณฑ์ เป็นอันตรายได้ ย้ำ อ่านฉลากให้ละเอียดก่อนซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพทุกครั้ง
นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่าตามที่ อย. ร่วมกับตำรวจ บก.ปคบ. ปฏิบัติการร่วมกันในการตรวจจับผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้ผู้บริโภค นั้น ล่าสุดได้จับ “ยาจุดกันยุง” ผิดกฎหมาย ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียน 2กรณี โดยกรณีแรก อย. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคให้ตรวจสอบสถานที่นำเข้ายาจุดกันยุงแห่งหนึ่งคาดว่าอาจจะทำผิดกฎหมาย ดังนั้น เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 อย. ได้เข้าตรวจสอบสถานที่นำเข้าชื่อ บริษัท หลาน ไค ซิน หยวน ฟา จำกัด เลขที่ 25/3 หมู่ 4 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งพบว่าเป็นสถานที่เก็บยาจุดกันยุงตรา LaoJun ลักษณะเป็นกล่องสีเหลือง ฉลากแสดงภาษาจีน ระบุส่วนประกอบสำคัญของสาร Meperfluthrin 0.05% เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลาง จำนวน 21,000 กล่อง มูลค่ากว่า 500,000 บาท เพื่อดำเนินคดีต่อไป
กรณีที่สอง อย. ได้รับแจ้งจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตรให้ตรวจสอบการผลิต การนำเข้า และการควบคุมฉลากของผลิตภัณฑ์ยาจุดกันยุง ตรา goldeer ซึ่งตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าแสดงฉลากไม่ถูกต้อง และไม่มีฉลากภาษาไทย ดังนั้น อย. ร่วมกับ บก.ปคบ. ทำการสืบสวนและล่อซื้อยาจุดกันยุงดังกล่าวจากนายอภิเชษฐ์ ผ่านทางเฟซบุ๊ค (www.facebook/goldeer999) จำนวน 100 ลัง โดยนัดส่งของในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 บริเวณซอยเอกมัย 89/7 และเมื่อนายอภิเชษฐ์นำสินค้ามาส่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและทำการตรวจยึดของกลาง ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นยาจุดกันยุง ตรา goldeer 1981 ลักษณะกล่องสีน้ำเงิน แสดงฉลากภาษาจีน ระบุส่วนประกอบสำคัญของสาร Meperfluthrin 0.08% เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางมูลค่ากว่า 1 แสนบาท
จากนั้นในวันเดียวกัน ( 22 พ.ค. 57 ) อย. ได้เข้าตรวจค้นโกดังสินค้า เลขที่ 14/12 ซ.บางกระดี่ 35/1 แยก 4 ถ.บางกระดี่ แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ปรากฏพบ ซีอิ๋วเห็ดหอมฮ่องกง ตรา OHYE ฉลากระบุเลขสารบบอาหาร 10-3-15147-1-0004 ไม่ระบุผู้นำเข้า และเมื่อตรวจสอบเลขสารบบอาหารพบว่า เป็นการสวมทะเบียน โดยเลขสารบบอาหารดังกล่าวได้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผลิตภัณฑ์ซีอิ๊วถั่วเหลือง เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางมูลค่า 100,000 บาท เพื่อดำเนินคดีอย่างเข้มงวดต่อไป
ส่วนของการดำเนินคดี ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ดังนี้
กรณีของ บริษัท หลาน ไค ซิน หยวน ฟา จำกัด (นำเข้ายาจุดกันยุง ตรา LaoJun โดยไม่ได้ขออนุญาต)
- นำเข้าวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 โดยมิได้ขึ้นทะเบียน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีของนายอภิเชษฐ์ (นำเข้า/ขาย ยาจุดกันยุง ตรา goldeer โดยไม่ได้ขออนุญาต )
- นำเข้าวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 โดยมิได้ขึ้นทะเบียน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีของโกดังสินค้า พบซีอิ๊วเห็ดหอมฮ่องกง ตรา OHYE ฉลากสวมทะเบียน
1. นำเข้าและขายอาหารปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 – 100,000 บาท
2. ขายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
เลขาธิการฯ อย. กล่าวเพิ่มเติมว่า สารเมเพอร์ฟลูทริน ( Meperfluthrin ) ที่ระบุไว้ตามเอกสารยาจุด กันยุงของผู้ผลิตทั้งสองราย นั้น เป็นสารที่อยู่ในกลุ่มของสารไล่แมลง ไพรีทริน หรือ ไพรีทรอยด์ ที่ อย. ยังไม่รับขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 จึงขอเตือนผู้บริโภคอย่าซื้ออย่าใช้ยาจุดกันยุงที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าว เพราะอาจได้รับอันตรายได้ เนื่องจากสาร Meperfluthrin ยังไม่มีข้อมูลวิชาการยืนยันในความปลอดภัยแต่อย่างใด นอกจากนี้ ขอให้ผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพใด ๆ จากแหล่งร้านค้าที่น่าเชื่อถือและอย่าหลงเชื่อโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงเด็ดขาด หากจะต้องซื้อผลิตภัณฑ์ที่จัดเป็นวัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน เช่น ยาจุดกันยุง ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการขออนุญาตขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง โดยให้สังเกตที่ฉลาก ต้องมีเลขทะเบียน อย. วอส. ส่วนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหาร ควรสังเกตฉลากต้องมีข้อความภาษาไทยที่แสดงรายละเอียดครบถ้วน เช่น ชื่ออาหาร เลขสารบบอาหาร 13 หลัก ในกรอบเครื่องหมาย อย. ชื่อและที่อยู่ของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า น้ำหนักสุทธิ ส่วนประกอบสำคัญ วันเดือนปีที่ผลิต และ/หรือวันเดือนปีที่หมดอายุ เป็นต้น
ทั้งนี้ อย. จะขอความร่วมมือจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ในการเฝ้าระวังตรวจสอบการผลิต/จำหน่าย ผลิตภัณฑ์สุขภาพในพื้นที่นั้น ๆ มิให้กระทำผิดกฎหมาย ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคของ อย. หากผู้บริโภคท่านใดพบเห็นผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย ที่คาดว่าจะเป็นอันตราย โปรดแจ้งร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่พบการกระทำผิดนั้นๆ นอกจากนี้ยังสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน บก.ปคบ. 1135 เพื่อ อย. จะได้ร่วมกับ บก.ปคบ. ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด