สสจ.กระบี่ ลุยจับผู้กระทำผิดกฎหมาย ร่วมมือกับตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ จับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายยาผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดกระบี่ พบของกลางยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และยาอันตรายในกลุ่มยาแก้แพ้ ยาแก้ไอจำนวนมาก โดยเฉพาะพบยาน้ำแก้ไอกว่า 2 พันขวด ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นนิยมใช้ผสมสารเสพติด 4x100 เบื้องต้นแจ้งหลายข้อหา มีโทษทั้งจำและปรับ และส่งข้อมูลการตรวจจับให้ อย. เพื่อขยายผลตรวจสอบหาผู้ขายและผู้ซื้อยาผิดกฎหมายต่อไป ย้ำ! อย. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด จะเข้มงวดกวดขันมิให้ผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์สุขภาพกระทำผิดกฎหมายและลอยนวล เนื่องจากเป็นการปฏิบัติงานคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งทำงานเพื่อราชการและประชาชน
ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และโฆษก อย. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ (สสจ.กระบี่) ว่าทาง สสจ.กระบี่ ได้ร่วมมือกับตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ ตรวจค้นสวนยาง ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ปรากฏพบมีการจำหน่ายยาผิดกฎหมายหลายรายการจำนวนมาก ได้แก่ โคเดอีน ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ไว้ในครอบครอง , อัลปราโซแลม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครอง, ลอราซีแพม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ไว้ในครอบครอง, D5 (ไดอะซีแพม) ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ในครอบครอง ตลอดจนพบยาน้ำแก้ไอเป็นจำนวนมากกว่า 2 พันขวด ซึ่งทำให้ตัดตอนการกระจายยาน้ำแก้ไอให้กลุ่มวัยรุ่นไปใช้ในทางที่ผิด นอกจากนี้ ยังพบยาเสริมสมรรถภาพทางเพศ ยาแก้แพ้ และยาเม็ดที่ควบคุมการจำหน่าย รวมกันแล้วจำนวนหลายหมื่นเม็ด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวอย่างยาเพื่อตรวจวิเคราะห์ว่าเป็น ยาชนิดใดแล้ว เพื่อผลในการดำเนินคดีต่อไป
เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดี ดังนี้
1. มียาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
2. มีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท
3. มีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. ขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
5. ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.พนัส โสภณพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ (สสจ.กระบี่) ได้ส่งข้อมูลการตรวจจับดังกล่าวให้แก่ อย. เพื่อใช้ในการตรวจสอบหาผู้ขายและผู้ซื้อยาผิดกฎหมายดังกล่าว เพื่อ สสจ.กระบี่ จะนำไปเป็นข้อมูลประกอบการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ สสจ.กระบี่ มีมาตรการในการเฝ้าระวังตรวจสอบผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ในพื้นที่จังหวัดกระบี่อย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะการปฏิบัติตามมาตรการของ อย. ในการควบคุมการจำหน่ายยาน้ำแก้ไอ ตามประกาศฯ เรื่อง การควบคุมการจำหน่ายยาน้ำแก้ไอที่มีไดเฟนไฮดรามีน หรือ โปรเมทาซีน หรือ เดกซ์โตรเมธอร์แฟน เป็นส่วนประกอบ โดยจำกัดปริมาณการจำหน่ายจากผู้ผลิตไปยังร้านขายยาไม่เกิน 300 ขวดต่อแห่งต่อเดือน และจำกัดการขาย ไม่ควรจ่ายยาเกินครั้งละ 3 ขวด เพื่อป้องกันการนำยาดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์
ภก.ประพนธ์ รองเลขาธิการฯ อย. และโฆษก อย. กล่าวในตอนท้ายว่า กรณีเรื่องยาน้ำแก้ไอ อย. ขอเตือนร้านขายยาทุกแห่ง และผู้ที่กำลังจะนำยาน้ำแก้ไอไปจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่นหรือบุคคลใดที่คาดว่า จะนำไปใช้ในทางที่ผิด อย่าได้กระทำผิดกฎหมายเด็ดขาด ถ้าตรวจพบจะดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนทุกราย หากเป็นร้านขายยาถึงขั้นพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขายยา และส่งเรื่องให้สภาเภสัชกรรมพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องจรรยาบรรณของผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในร้านขายยาที่มีปัญหาทุกแห่ง ส่วนผู้กระทำผิดรายอื่นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจการดำเนินงานของ อย. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง ที่จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร และตำรวจ ในการทำหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยให้ผู้บริโภคอย่างเข้มแข็ง หากผู้บริโภคพบแหล่งใดมีการขายยาที่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ