
อย. เผย การขายผลิตภัณฑ์สุขภาพต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีใบอนุญาตการขาย ได้แก่ ยา วัตถุออกฤทธิ์ และ วัตถุเสพติด ย้ำ! ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ห้ามขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต เพราะผิดกฎหมาย ส่วนการโฆษณา อาหาร ยา และเครื่องมือแพทย์ ต้องขออนุญาตก่อนการโฆษณา เตือนผู้ขายและผู้โฆษณาศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนก่อนดำเนินการใด ๆ จะได้ไม่ผิดกฎหมาย
ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และในฐานะโฆษก (อย.) เปิดเผยว่า การขายผลิตภัณฑ์สุขภาพทางอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย นับวันจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ได้แก่ ยา อาหาร เครื่องมือแพทย์ เครื่องสำอาง วัตถุอันตราย รวมถึงวัตถุออกฤทธิ์ วัตถุเสพติดให้โทษ และสารระเหย โดยควบคุมกำกับดูแลการผลิตการขาย รวมไปถึงการโฆษณา จึงขอชี้แจงรายละเอียดในการขายและการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนของผู้ที่ต้องการขายหรือโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทางสื่อต่าง ๆ ในด้านการขายนั้น ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ต้องมีใบอนุญาตการขาย ได้แก่ ยา วัตถุออกฤทธิ์ และวัตถุเสพติด ส่วนที่ไม่ต้องมีใบขออนุญาตการขาย ได้แก่ เครื่องสำอาง อาหาร วัตถุอันตราย และเครื่องมือแพทย์ (ยกเว้นกรณีน้ำยาตรวจเชื้อ HIV) และขอย้ำว่ายา วัตถุออกฤทธิ์ และวัตถุเสพติด ห้ามขายผ่านทางอินเทอร์เน็ต ถือว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากมีข้อกำหนดชัดเจนเรื่องสถานที่ขาย ว่าต้องไม่ขายนอกสถานที่ตามที่อนุญาต เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ใช่สินค้าทั่วไป การซื้อจึงต้องได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง จากผู้ปฏิบัติวิชาชีพโดยตรง ที่ผ่านมาพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่ง อย. ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย บก.ปคบ.ติดตามปิดเว็บไซต์ที่กระทำผิดเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้กรณีผลิตภัณฑ์อื่น หากขายทางอินเทอร์เน็ตต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ขออนุญาตจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ หากเป็นการขายตรงหรือทำตลาดแบบขายตรง ต้องขออนุญาตที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นต้น
รองเลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการควบคุมกำกับดูแลการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ผลิตภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตโฆษณา ได้แก่ ยา (เฉพาะยาสามัญประจำบ้าน ยาที่ไม่ใช่ยาอันตราย หรือยาควบคุมพิเศษ ทั้งที่เป็นยาแผนโบราณและยาแผนปัจจุบัน) อาหาร และ เครื่องมือแพทย์
ซึ่งการโฆษณาผ่านสื่อใด ๆ เช่น วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ภาพยนตร์ สิ่งพิมพ์ อินเทอร์เน็ต เป็นต้น เพื่อประโยชน์ในทางการค้า ต้องนำ เสียง ภาพ ภาพยนตร์ หรือข้อความโฆษณาดังกล่าวให้ผู้อนุญาตตรวจพิจารณาก่อน เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงโฆษณาได้ โดยโฆษณายา จะต้องไม่โอ้อวดว่าสามารถบำบัด บรรเทา รักษาโรคได้อย่างศักดิ์สิทธิ์ หรือหายขาด ไม่แสดงสรรพคุณเป็นเท็จ หรือทำให้เข้าใจว่าเป็นยาบำรุงกาม อาหาร ห้ามมิให้โฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ และสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จหรือหลอกลวง เครื่องมือแพทย์ ห้ามมิให้แสดงคุณประโยชน์ คุณภาพ ปริมาณมาตรฐานส่วนประกอบหรือแหล่งกำเนิดเกินจริง ทั้งนี้ การโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารที่ไม่มีการให้ข้อมูลที่เป็นการกล่าวอ้างหรือ ทำให้เข้าใจว่าอาหารนั้นมีสรรพคุณ คุณภาพ คุณประโยชน์ หรือการให้ข้อมูลทางวิชาการ โดยไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้า รวมทั้งการโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขาย โดยไม่มีการแสดงสรรพคุณ คุณภาพ คุณประโยชน์ของอาหาร ไม่ต้องขออนุญาต ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ไม่ต้องขออนุญาตโฆษณา ได้แก่ เครื่องสำอาง และวัตถุอันตราย แต่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ซึ่งต้องไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง หรือต้องพิสูจน์ได้ว่าข้อความที่ใช้เป็นความจริงตามที่กล่าวอ้าง
ทั้งนี้ หากผู้บริโภคพบเห็นโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงทางสื่อต่าง ๆ สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Oryor Smart Application หรือ สายด่วน กสทช. 1200 หรือ สายด่วน บก.ปคบ. 1135 หรือที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด