เมื่อวันที่ 16-17 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา อย. ร่วมกับ สสจ.พัทลุง ลงพื้นที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชน บ้านขนมปั้นขลิบเมืองเก่าชัยบุรี วิสาหกิจชุมชนบ้านเขากลาง กลุ่มผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวบ้านควนขนุนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านปลายตรอกร่วมใจ เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน มอบขวัญและกำลังใจให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน พร้อมทั้งร่วมการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2559 ของชมรมร้านขายยา  จังหวัดพัทลุง ณ ห้องประชุม หนามมดแดง อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง

         นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีความตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนากลุ่มวิสาหกิจชุมชนมาโดยตลอด โดยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำวัตถุดิบในประเทศมาผลิตเป็นสินค้า อาหาร ยา และเครื่องสำอาง เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในท้องถิ่น ซึ่งเมื่อวันที่ 16-17 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ อย. และ สสจ.พัทลุง ได้มีการ ลงพื้นที่ ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านขนมปั้นขลิบเมืองเก่าชัยบุรี (ปั้นขลิบน้องหนึ่ง) ต.ชัยบุรี อ.เมือง จ.พัทลุง เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน พร้อมมอบขวัญและกำลังใจให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ซึ่งสถานที่ผลิตอาหารดังกล่าวมีหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดีขั้นต้นในการผลิตอาหารแปรรูปที่บรรจุในภาชนะพร้อมจำหน่าย (Primary GMP) โดยมีกระบวนการควบคุมคุณภาพมาตรฐานการผลิตทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การผลิต การบรรจุจนถึงการตลาด อีกทั้งยังได้รับรางวัล อย. ควอลิตี้ อวอร์ด ประจำปี 2555 รางวัลผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 5 ดาว มาตรฐาน HACCP เพื่อส่งออกต่างประเทศ เป็นต้น ปัจจุบันผลิตภัณฑ์มีวางจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศมียอดขายเฉลี่ยปีละกว่า 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการเยี่ยมชมการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนอื่น ๆ อาทิ วิสาหกิจชุมชนบ้านเขากลาง ต.ปันแค อ.ควนขนุน (ผลิตภัณฑ์ข้าวสารบรรจุถุง ประเภทข้าวสังข์หยด) กลุ่มผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวบ้านควนขนุน ต.ควนขนุน อ.ควนขนุน (ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกะลามะพร้าว) วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านปลายตรอกร่วมใจ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน (ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากต้นกระจูด) ทั้งนี้ อย. จึงขอให้ประชาชนร่วมกันสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากฝีมือคนไทย และขอให้ผู้บริโภคมั่นใจในการเลือกซื้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากมีการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ของทางกลุ่มจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุงเป็นประจำ

         นอกจากนี้ เลขาธิการฯ อย. ยังได้กล่าวหลังจากเป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2559 ของชมรมร้านขายยาจังหวัดพัทลุงว่า ตามที่มีการออกกฎกระทรวงว่าด้วยการขออนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน พ.ศ. 2556 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2557 เป็นต้นมานั้น ได้กำหนดให้สถานที่ขายยาจะต้องมีมาตรฐานถูกสุขลักษณะ เก็บรักษายาได้อย่างมีคุณภาพ เป็นไปตามวิธีปฏิบัติทางเภสัชกรรรม หรือจีพีพี (GPP : Good Pharmacy Practice) และมีผู้ประกอบวิชาชีพอยู่ประจำเวลาทำการ พร้อมทั้งแสดง ชื่อ-สกุล รูปถ่าย เลขที่ใบประกอบวิชาชีพ และเวลาที่ปฏิบัติงานชัดเจน ทั้งนี้ ในส่วนของร้านขายยาที่ดำเนินการเปิดมาก่อนกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะต้องมีการปรับปรุงพัฒนาภายในระยะเวลา 8 ปี ซึ่งทาง อย. จะดำเนินการสนับสนุนให้สมาชิกของชมรมร้านขายยาทั่วประเทศ เร่งพัฒนาร้านขายยาให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย และสามารถเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการสุขภาพในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าช่วยคัดกรองผู้ป่วยโรคเรื้อรังเบื้องต้น จัดการปัญหาด้านยา การเป็นแหล่งรับยาให้ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่คุมอาการได้แล้ว รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพอื่น ๆ เป็นต้น