
สธ. ร่วมกับ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และ สสส. จัดงานประชุมวิชาการ “สานพลังประชารัฐ พัฒนาผักผลไม้ปลอดภัย” เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเชิงวิชาการและสร้างความตระหนักให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิตผักและผลไม้สดให้ปลอดภัยสู่ผู้บริโภค รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ สถาบันการศึกษา ประชาชน ในการพัฒนาผักและผลไม้สดให้มีคุณภาพและความปลอดภัย
นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เนื่องด้วยผักและผลไม้สดเป็นอาหารที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของมนุษย์ ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย อีกทั้ง องค์การอนามัยโลกได้กำหนดเกณฑ์การบริโภคผักและผลไม้สดวันละ 400-600 กรัม ซึ่งเป็นปริมาณการบริโภคที่สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น หัวใจขาดเลือด เส้นเลือดในสมองตีบ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น และด้วยสถานการณ์การตกค้างของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชในผักและผลไม้สดในปัจจุบัน พบว่ายังเป็นปัญหา ที่ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่มั่นใจและไม่สามารถเข้าถึงผักและผลไม้สดที่มีคุณภาพและความปลอดภัยได้
ทั้งนี้นโยบายรัฐบาล มุ่งเน้นสร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตตลอดช่วงชีวิต สนับสนุนให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงโภชนาการและอาหารปลอดภัย เสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบเฝ้าระวัง รวมถึงบูรณาการเรื่องอาหารปลอดภัย โดยควบคุม กำกับ และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ให้มีคุณภาพ ปลอดภัย (Food safety) โดยเน้นแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนสารเคมี และจุลินทรีย์ในอาหาร ประกอบกับที่คณะกรรมการอาหารแห่งชาติ มีมติเห็นชอบให้มีการผลักดัน เรื่อง“ผักและผลไม้สดปลอดภัย” ตั้งแต่ ต้นน้ำ (ฟาร์มและเกษตรกร) กลางน้ำ (แหล่งรวบรวม โรงคัดบรรจุและแหล่งจำหน่าย) จนถึงปลายน้ำ (ผู้บริโภค) โดยในส่วนของกลางน้ำและปลายน้ำ ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขพัฒนายกระดับแหล่งรวบรวม/โรงคัดบรรจุผักและผลไม้ให้มีมาตรฐานการผลิตและมีระบบตามสอบย้อนกลับ (Traceability) รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งการกำกับดูแลผักและผลไม้นำเข้าให้มีคุณภาพและความปลอดภัยรองรับอาเซียน ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่การผลิต จึงเป็นที่มาของการจัดงานนี้
สำหรับกระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มีมาตรการการขับเคลื่อนยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของผักและผลไม้สดให้เกิดระบบประกันคุณภาพ และระบบตามสอบย้อนกลับ (Traceability) โดยการยกระดับการกำกับดูแลสถานที่คัดและบรรจุผักหรือผลไม้สดบางชนิดที่ผ่านกระบวนการคัดและบรรจุ ต้องมาจากแหล่งเพาะปลูกที่มีการควบคุมการใช้สารเคมีทางการเกษตร ที่ปลอดภัย และต้องมีการแสดงฉลาก สัญลักษณ์บ่งชี้รุ่นการผลิตที่สามารถตามสอบย้อนกลับ (Traceability) ได้ รวมทั้งมีแนวทางการพัฒนาระบบเฝ้าระวัง โดยบูรณาการการดำเนินงานร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
การประชุม “สานพลังประชารัฐ พัฒนาผักผลไม้ปลอดภัย” ในวันนี้ (9 มิถุนายน 2559) กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกันจัดขึ้นโดยร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ สถาบันการศึกษา ประชาชน ในการเผยแพร่ข้อมูลวิชาการจากการขับเคลื่อนเรื่องผักและผลไม้สดปลอดภัย โดยเนื้อหาครอบคลุม ตั้งแต่ (1) กลไกการขับเคลื่อนผักและผลไม้ปลอดภัยตลอดห่วงโซ่ (2) สถานการณ์การเฝ้าระวังความปลอดภัยของผักและผลไม้สดในประเทศไทย (3) การยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรขั้นต้นและแนวทางการกำกับดูแลการใช้สารเคมีทางการเกษตร (4) กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลผักและผลไม้ปลอดภัย (5) ถอดรหัสระบบตามสอบย้อนกลับ(Traceability) จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ Success story และ (6) เสวนาการบริหารจัดการผักและผลไม้ปลอดภัยในระดับท้องถิ่น
สธ.หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลจากการประชุมในครั้งนี้จะเป็นส่วนสนับสนุนให้ภาคีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องช่วยในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และผู้นำเข้า รวมทั้งเป็นต้นแบบ ในการบูรณาการการขับเคลื่อนผักและผลไม้สดปลอดภัยตลอดห่วงโซ่ ภายใต้ความร่วมมือของ รัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และ ประชาชน นายแพทย์ธวัช สุนทราจารย์ กล่าวในที่สุด