หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินกันมาบ้างว่า หากมีอาการเลือดกำเดาไหลห้ามเงยหน้า จะจริงหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบ
เลือดกำเดาไหล เกิดจากการที่เส้นเลือดในโพรงจมูกเปราะ และแตกง่าย อาการที่พบ คือ มีเลือดไหลออกจากรูจมูก โดยเลือดสามารถหยุดไหลได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเลือดกำเดาไหล ได้แก่
1. อากาศแห้ง
2. แคะจมูก สั่งน้ำมูกแรง
3. จมูกได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง
4. การใช้ยาบางชนิดที่ทำให้โพรงจมูกแห้ง เช่น ยาแก้แพ้ (Antihistamines) เป็นต้น
5. โรคบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ โรคฮีโมฟีเลย โรคหวัด เป็นต้น
อาการเลือดกำเดาไหลเป็นอาการที่ไม่รุนแรง ผู้ที่เป็นสามารถดูแลตนเองได้โดยการห้ามเลือด
ซึ่งทำโดย
1. นั่งตัวตรงอยู่นิ่ง ๆ
2. ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบรูจมูก ก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วหายใจทางปาก ประมาณ 5 นาที
จนเลือดหยุดไหล อาจใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือผ้าห่อน้ำแข็งวางไว้บริเวณสันจมูก
จากที่มีการพูดกันเป็นประจำว่าหากเลือดกำเดาไหลห้ามเงยหน้า นั้นเป็นความจริง เพราะหากเงยหน้าอาจทำให้กลืนเลือดลงสู่กระเพาะอาหารแล้วทำให้เกิดการอาเจียน จนอาจทำให้อาหารเป็นพิษได้ ดังนั้น ไม่ควรเงยหน้า และหากมีเลือดไหลลงสู่ลำคอ ควรรีบคายเลือดออกมา
การปฏิบัติตัวอื่นๆ ที่ควรทำ ได้แก่
1. พยายามไม่สั่งน้ำมูกแรง
2. ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีอากาศแห้ง
3. หากต้องมีการใช้ยาแอสไพริน (Aspirin) ยาต้านฮิสตามีน หรือยาแก้คัดจมูก (Antihistamines) ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา เพราะยาเหล่านี้สามารถทำให้จมูกแห้งได้
โดยหากมีภาวะเลือดกำเดาไหลเป็นประจำ เลือดกำเดามีปริมาณมาก และมีอาการหน้ามืด ควรรีบไปพบแพทย์
สนับสนุนโดย : กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์