
โรคเริม เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex เมื่อติดเชื้อจะมีอาการแสดงที่สังเกตได้ชัดเจนคือ เกิดตุ่มน้ำกระจุกตัวเป็นกลุ่มอยู่บนผิวหนัง และจะเกิดอาการปวดแสบร้อน/คัน หรืออาจมีไข้ร่วมด้วย โดยกลุ่มของตุ่มน้ำนั้นมักเกิดขึ้นบริเวณริมฝีปาก หรืออวัยวะเพศ ส่งผลต่อบุคลิกภาพทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ
หลายคนจึงพยายามรักษาให้หายโดยเร็วโดยซื้อยามารับประทานเอง เพราะยารักษาโรคเริมคือยายับยั้งเชื้อไวรัส มีฤทธิ์ลดการเพิ่มจำนวนของไวรัสจึงช่วยลดระยะเวลาของการเกิดโรคได้ แต่ไม่ได้ช่วยให้หายขาด และสามารถกลับมาเป็นซ้ำอีกได้หากมีปัจจัยมากระตุ้น เช่น ร่างกายอ่อนแอ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือเครียด โดยยาจะควบคุมการแพร่เชื้อไวรัสได้นั้นต้องรับประทานอย่างถูกวิธี และครบตามจำนวนที่แพทย์ หรือเภสัชกรแนะนำ
อาการของโรคเริมสามารถหายได้เองภายใน 20 วัน และสามารถติดต่อสู่ผู้อื่นได้ การดูแลรักษาที่ถูกวิธีจึงเป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติ โดยสามารถทำได้ดังนี้
1. ไม่เกา/แกะบริเวณตุ่มน้ำ
2. ทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ
3. ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
4. พักผ่อนอย่างเพียงพอ
ยาที่ใช้กับโรคเริมได้แก่
1. ยาบรรเทาปวด/ลดไข้ เช่น ยาพาราเซตามอล(Paracetamol)
2. ยายับยั้งการเพิ่มจำนวนไวรัส Herpes simplex ได้แก่ Acyclovir/Famcyclovir/Valacyclovir เมื่อมีตุ่มน้ำเกิดขึ้นควรใช้ยาภายใน 48 ชั่วโมง ยาจึงจะมีประสิทธิภาพยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสได้ และใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์ หรือเภสัชกรเท่านั้น