การรักษาอาการท้องผูกขณะตั้งครรภ์
1 พฤศจิกายน 2564

คุณแม่ตั้งครรภ์จะเกิดอาการท้องผูกได้ง่าย เนื่องจากมดลูกมีการขยายใหญ่ขึ้นไปกดทับลำไส้ใหญ่ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนทำให้กล้ามเนื้อลำไส้คลายตัวส่งผลให้การย่อยอาหารและขับถ่ายของเสียช้าลง อีกทั้งความเครียด วิตกกังวล การทำกิจกรรมทางกายลดลง รับประทานอาหารที่มีเส้นใยน้อย ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ รวมถึงการเสริมด้วยธาตุเหล็กในขณะตั้งครรภ์ก็ยังมีผลข้างเคียงทำให้ท้องผูกได้มากขึ้นด้วย อาการท้องผูกที่เกิดขึ้นอาจบรรเทาได้ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและการกินอาหาร เช่น

  1. รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ให้มากขึ้น โดยควรรับประทานไฟเบอร์ที่มาจากผัก ผลไม้ หรือธัญพืชไม่

ขัดสีให้ได้อย่างน้อย 20-35 กรัมต่อวัน

  1. ดื่มน้ำให้มากกว่า 8 แก้วต่อวัน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม
  2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตามความเหมาะสมภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้
  3. ฝึกการขับถ่ายให้ถูกวิธี และขับถ่ายให้เป็นเวลา
  4. ลดหรือเลี่ยงการใช้อาหารเสริมธาตุเหล็ก การลดปริมาณอาหารเสริมธาตุเหล็ก  โดยปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปริมาณธาตุเหล็กที่คุณแม่ต้องการในแต่ละวัน เพื่อจัดสรรปริมาณอาหารที่มีธาตุเหล็กได้อย่างเพียงพอและเหมาะสม
  5. ใช้ยาบรรเทาอาการท้องผูกที่ปลอดภัยในคุณแม่ตั้งครรภ์ เช่น ยาระบายกลุ่มไฟเบอร์ ซึ่งจะไม่ถูกย่อย

และสามารถอุ้มน้ำได้ จึงเพิ่มปริมาณอุจจาระและทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น นอกจากนี้ยังกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ทำให้อุจจาระเคลื่อนผ่านภายในลำไส้ใหญ่ได้เร็วขึ้น เมื่อรับประทานยาระบายกลุ่มนี้แล้วควรดื่มน้ำตามให้เพียงพอ และควรรับประทานให้ห่างจากยาอื่นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยาเพื่อความปลอดภัย

 

ข้อมูลอ้างอิง : 

https://issuu.com/pharcpa/docs/journal67april/43

https://www.pobpad.com/ท้องผูกขณะตั้งครรภ์-สาเ

คลังรูปภาพ
แท็กที่เกี่ยวข้อง
ผลิตภัณฑ์ยา
สาระความรู้
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ
FDAknowledge
ท้องผูกขณะตั้งครรภ์
ท้องผูก
ตั้งครรภ์
ยาระบายกลุ่มไฟเบอร์
ยาระบาย