
คุณแม่ตั้งครรภ์จะเกิดอาการท้องผูกได้ง่าย เนื่องจากมดลูกมีการขยายใหญ่ขึ้นไปกดทับลำไส้ใหญ่ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนทำให้กล้ามเนื้อลำไส้คลายตัวส่งผลให้การย่อยอาหารและขับถ่ายของเสียช้าลง อีกทั้งความเครียด วิตกกังวล การทำกิจกรรมทางกายลดลง รับประทานอาหารที่มีเส้นใยน้อย ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ รวมถึงการเสริมด้วยธาตุเหล็กในขณะตั้งครรภ์ก็ยังมีผลข้างเคียงทำให้ท้องผูกได้มากขึ้นด้วย อาการท้องผูกที่เกิดขึ้นอาจบรรเทาได้ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและการกินอาหาร เช่น
- รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์ให้มากขึ้น โดยควรรับประทานไฟเบอร์ที่มาจากผัก ผลไม้ หรือธัญพืชไม่
ขัดสีให้ได้อย่างน้อย 20-35 กรัมต่อวัน
- ดื่มน้ำให้มากกว่า 8 แก้วต่อวัน หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตามความเหมาะสมภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้
- ฝึกการขับถ่ายให้ถูกวิธี และขับถ่ายให้เป็นเวลา
- ลดหรือเลี่ยงการใช้อาหารเสริมธาตุเหล็ก การลดปริมาณอาหารเสริมธาตุเหล็ก โดยปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปริมาณธาตุเหล็กที่คุณแม่ต้องการในแต่ละวัน เพื่อจัดสรรปริมาณอาหารที่มีธาตุเหล็กได้อย่างเพียงพอและเหมาะสม
- ใช้ยาบรรเทาอาการท้องผูกที่ปลอดภัยในคุณแม่ตั้งครรภ์ เช่น ยาระบายกลุ่มไฟเบอร์ ซึ่งจะไม่ถูกย่อย
และสามารถอุ้มน้ำได้ จึงเพิ่มปริมาณอุจจาระและทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น นอกจากนี้ยังกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ทำให้อุจจาระเคลื่อนผ่านภายในลำไส้ใหญ่ได้เร็วขึ้น เมื่อรับประทานยาระบายกลุ่มนี้แล้วควรดื่มน้ำตามให้เพียงพอ และควรรับประทานให้ห่างจากยาอื่นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยาเพื่อความปลอดภัย
ข้อมูลอ้างอิง :