
สารโบทูลินัมทอกซิน (Botulinum Toxin) ถูกสร้างมาจากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม ช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ไม่สามารถแก้ไขริ้วรอยที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้ เริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วัน เห็นผลสูงสุดใน 1-2 สัปดาห์ และมีฤทธิ์อยู่ได้เพียงชั่วคราวประมาณ 3-4 เดือนเท่านั้น หลังจากหมดฤทธิ์กล้ามเนื้อต่าง ๆ บนใบหน้าจะค่อย ๆ กลับมาหดตัว และกลับเข้าสู่สภาวะเดิมก่อนการฉีด หากต้องการคงสภาพของผลการรักษา จำเป็นต้องฉีดซ้ำเป็นระยะ โดยสามารถรับการรักษาได้นานตราบเท่าที่ต้องการคงสภาพผลการรักษา
ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดสารโบทูลินัมทอกซิน
1. หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามิน เอ, AHA, สครับหน้า, ขัดหน้า เป็นเวลา 1-2 วันก่อนการฉีดสารโบทูลินัมทอกซิน
2. หยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ
เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
3. งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดสารโบทูลินัมทอกซิน
1. ไม่ควรนอนราบ ในช่วง 3-4 ชั่วโมงหลังการรักษา
2. ห้ามนวดในบริเวณที่ทำการรักษาเนื่องจากอาจทำให้ยากระจายไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการรักษาได้
3. กรณีมีอาการบวมแดงหรือช้ำสามารถประคบน้ำแข็งได้ในช่วง 1-2 วันแรกหลังฉีด
4. พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมง หลังฉีด เพื่อให้ยากระจายเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
5. มาพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษา
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่ ห้อเลือดหรือรอยช้ำ ความรู้สึกเจ็บ ๆ คัน ๆ บริเวณที่ฉีด มีไข้ ปวดศีรษะ
มีอาการคล้ายไข้หวัด กล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉพาะที่ หากพบความผิดปกติใดเกิดขึ้นควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง สตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร และผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางกล้ามเนื้อและระบบประสาท ยังไม่แนะนำให้
ฉีดสารโบทูลินัมทอกซิน
ข้อมูลอ้างอิง :
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1022
การฉีดโบท๊อกซ์ (Botox Injection) (bangpakokhospital.com)
เรื่อง Botox ที่ต้องบอกต่อ สิ่งสำคัญหลายข้อ ที่คุณอาจไม่รู้!!! - Phyathai Hospital