วัคซีนในวัยรุ่น
12 พฤษภาคม 2566

         วัคซีนในวัยรุ่นส่วนใหญ่เป็นวัคซีนต่อเนื่อง ใช้สำหรับการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งถือเป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะช่วยลดการเกิดโรคและลดความรุนแรงของโรคได้ โดยวัคซีนแต่ละชนิดมีเกณฑ์การได้รับแตกต่างกันไป ดังนี้
1.วัคซีนตับอักเสบบี
          โดยปกติทารกควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีครั้งแรกเมื่อแรกเกิด และจะต้องฉีดวัคซีนจนครบชุดเมื่ออายุครบ 6 เดือน
- แต่สำหรับวัยรุ่นที่ไม่เคยได้รับวัคซีนนี้มาก่อน ควรฉีดวัคซีนโดยแนะนำให้ฉีด 3 เข็ม ระยะห่าง 0 , 1 และ 6 เดือนตามลำดับ โดยวัคซีนเข็มที่สองไม่ควรฉีดก่อน 1 เดือน หากเลยกำหนด 1 เดือนให้ฉีดเข็มที่สองทันทีที่นึกได้ และนับต่อไปอีก 5 เดือนสำหรับเข็มที่สาม
- กรณีได้รับวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบบีไม่ครบตามกำหนด (ไม่ครบ 3 เข็ม) ควรฉีดวัคซีนต่อโดยเร็วที่สุด
https://www.immunize.org/vis/thai_hepatitis_b.pdf
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1243
https://ddc.moph.go.th/uploads/files/1641720210104092850.pdf  (Slide18)
2.วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม

ปกติจะฉีดเข็มแรกเมื่ออายุ 9 เดือน และเข็มที่ 2 เมื่ออายุ 1 ปี 6 เดือน
- สำหรับวัยรุ่นที่ไม่เคยได้รับวัคซีนนี้ ควรได้รับวัคซีน 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 4 สัปดาห์ แต่หากเคยได้รับมาแล้ว 1 เข็มควรฉีดเพิ่มอีก 1 เข็ม
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาในผู้ที่แพ้ยานีโอมัยซิน เจลาติน หรือเคยมีปฏิกิริยากับวัคซีน MMR อย่างรุนแรง
3.วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี
- ยุงรำคาญเป็นพาหะนำโรค จะแพร่เชื้อไวรัสในตัวยุงไปยังคนหรือสัตว์ที่ถูกกัด
- สำหรับวัยรุ่นที่ไม่เคยได้รับวัคซีนนี้ ควรรับวัคซีน 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 3-12 เดือน ขึ้นกับชนิดของวัคซีน อาจต้องฉีดกระตุ้นทุก ๆ 4-5 ปี เพื่อให้ภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับสูงพอที่จะป้องกันโรคได้
4.วัคซีนตับอักเสบเอ
- ไวรัสตับอักเสบเอติดต่อทางการกิน ก่อให้เกิดโรคตับอักเสบและตับวายเฉียบพลันได้
- ปัจจุบันมีวัคซีนตับอักเสบเอชนิดฉีด 1 เข็ม เป็นวัคซีนชนิดเชื้อเป็น และวัคซีนฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6-12 เดือน
5.วัคซีนอีสุกอีใส
- โรคอีสุกอีใสในวัยรุ่นมีความรุนแรงสูง ควรฉีดวัคซีนนี้ในวัยรุ่นทุกคนที่ยังไม่เป็นโรคและไม่เคยฉีดวัคซีน
- ฉีด 2 เข็มห่างกันอย่างน้อย 3 เดือน แนะนำในผู้ที่อายุมากกว่าหรือเท่ากับ 13 ปีขึ้นไป ให้ฉีด 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 28 วัน
6
.วัคซีนโรคคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรนชนิดไร้เซลล์
- แนะนำให้กระตุ้นเมื่ออายุ 11-12 ปี และหลังจากนั้นกระตุ้นด้วยวัคซีนโรคคอตีบ-บาดทะยัก ทุก 10 ปี
- หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับวัคซีนบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน ที่อายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์ในทุกการตั้งครรภ์
7.วัคซีนเอชพีวี
- ป้องกันการเกิดหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอดและทวารหนัก
- วัคซีนมีหลายชนิด คือ วัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์  4 สายพันธุ์ และ 9 สายพันธุ์
- แนะนำฉีดในวัยรุ่น อายุ 9-26 ปี ฉีด 3 เข็ม และในวัยรุ่นแข็งแรงดี หากเข็มแรกฉีดก่อนอายุ 15 ปี ให้ฉีด 2 เข็ม
- ประสิทธิภาพของวัคซีนจะสูงในผู้ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์หรือไม่เคยติดเชื้อมาก่อน


8.วัคซีนไข้หวัดใหญ่

- วัคซีนมี 2 ชนิด คือ วัคซีนชนิด 3 และ 4 สายพันธุ์
- แนะนำฉีดวัคซีนในวัยรุ่นทุกปี ปีละ 1 เข็ม เนื่องจากสายพันธุ์มีการเปลี่ยนแปลงทุกปี
- ห้ามให้ในผู้ที่แพ้ยา/แพ้วัคซีน หรือส่วนประกอบของวัคซีนนี้ โดยเฉพาะผู้ที่แพ้ไข่ โปรตีนจากไก่ ยาปฏิชีวนะที่ใช้ในกระบวนการผลิตวัคซีน เช่น ยานีโอมัยซิน (Neomycin) และยาโพลีมัยซิน (Polymyxin)
9.วัคซีนไข้เลือดออก
- ฉีดได้ในผู้มีอายุ 9-45 ปี ฉีด 3 เข็ม แต่ละเข็มฉีดห่างกัน 6 เดือน สามารถสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันไข้เลือดออกได้ 5-6 ปี นับจากวันที่ได้รับวัคซีนเข็มแรก
- แนะนำฉีดในผู้ที่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกมาก่อนและผู้อาศัยในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออก สำหรับผู้ไม่เคยติดเชื้อไข้เลือดออกควรตรวจเลือดก่อนการฉีดวัคซีน

      หลังได้รับวัคซีนอาจพบอาการข้างเคียง 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
      1.อาการทั่วไป เช่น อาการไข้ อ่อนเพลีย ผื่น เป็นต้น

       2.อาการเฉพาะที่ เช่นอาการปวด บวมแดง เจ็บ คันบริเวณที่ฉีด

           สามารถบรรเทาได้โดยประคบเย็นบริเวณที่บวม ซึ่งจะช่วยให้ทุเลาลง หรืออาจทานยาแก้ปวดลดไข้ร่วมด้วย
      
การรับวัคซีนแต่ละชนิดมีข้อบ่งใช้ ระยะเวลา รูปแบบการฉีด และข้อจำกัดของแต่ละบุคคลแตกต่างกันออกไป จึงควรได้รับการพิจารณาจากแพทย์ถึงความเหมาะสมและความปลอดภัยก่อนทุกครั้ง



ข้อมูลอ้างอิง

https://www.pidst.or.th/A745.html

https://www.hitap.net/183144

https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/2029

https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/1783

https://oryor.com/media/checkSureShare/media_specify/656

https://oryor.com/media/checkSureShare/media_specify/654

https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/1856

แนวทางการให้วัคซีนJEเชื้อเป็นทั่วประเทศ.pdf (moph.go.th)

วัคซีนในวัยรุ่น – ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก (mahidol.ac.th)

https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/line/วัคซีนป้องกันโรคหัด-หัด/

คลังรูปภาพ
แท็กที่เกี่ยวข้อง
FDAknowledge
oryor
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ผลิตภัณฑ์ยา
อย.
สาระความรู้
วัคซีน
ฉีดวัคซีน