โรคบาดทะยักหรือ Tetanus
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียคลอสทริเดียม เททานี (Clostridium tetani)
ซึ่งจะพบได้ทั่วไปในดิน ฝุ่นละอองตามถนน ในสิ่งแวดล้อม
เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังที่ถลอก ทางบาดแผล
โดยเฉพาะบาดแผลที่เจาะลึกเข้าไปในผิวหนัง เช่น ตะปูตำ เสี้ยนไม้ตำ
นอกจากนี้อาจพบการติดเชื้อจากการใช้เครื่องมือหรือเข็มฉีดยาที่ไม่สะอาด
เมื่อเชื้อบาดทะยักเข้าสู่ร่างกายจะสร้างสารพิษท็อกซิน
ซึ่งสารพิษดังกล่าวจะไปจับกับเส้นประสาท เชื้อจะลามไปตามเส้นประสาท สู่ไขสันหลัง
และอาจไปถึงก้านสมองบางส่วน ทำให้มีอาการปวดคล้ายปวดกล้ามเนื้อ
อาการเกร็งของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายเป็นระยะ ๆ อ้าปากไม่ได้ คอเกร็ง หลังเกร็ง
เหงื่อแตก หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ บางรายอาการรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
โรคบาดทะยัก แม้จะเป็นโรคอันตราย แต่ก็สามารถป้องกันได้ดังนี้
1.
หากมีบาดแผลที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อบาดทะยัก (แผลฉีกขาด ปนเปื้อนดิน ทราย
สนิมและสิ่งสกปรก) ให้รีบทำความสะอาดแผล เช็ดด้วยยาฆ่าเชื้อโรค แอลกอฮอล์ 70 %
แล้วรีบไปพบแพทย์
2. ฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักให้ครบตามกำหนด ซึ่งสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
ปี พ.ศ. 2566 แนะนำให้เด็กควรได้รับวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน
ชนิดทั้งเซลล์ ตับอักเสบบี ฮิบ (DTwP-HB-Hib)
ที่อายุ 2 เดือน 4
เดือน 6เดือน และฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก
ไอกรนชนิดทั้งเซลล์ (DTwP) อีกครั้งเมื่อมีอายุ 18 เดือน และอายุระหว่าง 4-6 ปี
และฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนรวมป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก (Td)
อีกครั้งเมื่อมีอายุ 11-12 ปี หลังจากนั้นกระตุ้นทุก 10 ปี
3. สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน หรือรับไม่ครบ 3 ครั้ง ควรได้รับวัคซีนคอตีบและบาดทะยัก (Td) 3 ครั้ง โดยมีระยะห่าง 0, 1 และ 6 เดือน หลังจากนั้นกระตุ้นทุก 10 ปี
ข้อมูลอ้างอิง
ตารางการให้วัคซีนในเด็กไทย 2566 โดย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
Diphtheria, Tetanus, and Pertussis Vaccine Recommendations
วัคซีนป้องกันโรคสําหรับผู้ใหญ่ และผู้สูงอาย