วัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็ก
25 เมษายน 2567

วัคซีนมีความสำคัญกับเด็กอย่างมาก เพราะนอกจากช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ยังช่วยป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลต่อพัฒนาการการเติบโตในอนาคตได้ ดังนั้นเด็กจึงควรได้รับวัคซีนตามคำแนะนำของแพทย์ให้ครบตามช่วงอายุเพื่อการมีสุขภาพที่แข็งแรง

วัคซีนพื้นฐาน คือ วัคซีนจำเป็นที่เด็กทุกคนควรจะได้รับตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กไทย โดยตามคำแนะนำของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ประจำปี พ.. 2566 กำหนดไว้ดังนี้

1.    วัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) จะฉีดเมื่อแรกคลอด

2.    วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี (HBV)ควรฉีดตั้งแต่แรกเกิดและ 1, 2, 4 และ 6 เดือน ตามลำดับ

3.    วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ชนิดทั้งเซลล์ (DTwP)ควรฉีดตามช่วงอายุตั้งแต่ 2, 4 และ 6 เดือน และฉีดเพื่อกระตุ้นการทำงานของวัคซีนอีกครั้งในช่วงอายุ 1 ปี 6 เดือน, 4-6 ปี และ 11-12 ปี (ฉีดเฉพาะบาดทะยัก-คอตีบ)

4.    วัคซีนป้องกันการติดเชื้อฮิป (Haemophilus influenzae Type B หรือเรียกย่อว่าว่า Hib)ควรฉีดตามช่วงอายุตั้งแต่ 2, 4 และ 6 เดือน ตามลำดับ

5.    วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดกิน (OPV) ควรให้ตามช่วงอายุตั้งแต่ 2, 4 และ 6 เดือน และให้เพื่อกระตุ้นการทำงานของวัคซีนอีกครั้งในช่วงอายุ 1 ปี 6 เดือน และ 4-6 ปี

6.    วัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรต้า (Rota) ควรให้ตามช่วงอายุตั้งแต่ 2, 4 และ 6 เดือน ตามลำดับ

7.    วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน (MMR) ควรฉีดตามช่วงอายุคือ 9-12 เดือน และ 1 ปี 6 เดือน

8.    วัคซีนป้องกันโรคไข้สมองอักเสบ (Live JE) ควรฉีดตามช่วงอายุคือ 9-12 เดือน และ 2 ปี-2 ปี 6 เดือน

9.    วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (influenza) ควรฉีดในเด็กปีละครั้ง ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ถึง 12 ปี โดยในครั้งแรกฉีด2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน

10.  วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (Covid-19) ให้ดูคำแนะนำการฉีดของกรมควบคุมโรค และราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย

11.   วัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก (HPV) เป็นวัคซีนที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชพีวี สาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูก ควรฉีดในเด็ก ตั้งแต่อายุ 11ปี -12 ปี ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6-12 เดือน

หากไม่สะดวกไปฉีดวัคซีนตามนัด วัคซีนแต่ละชนิดจะสามารถเลื่อนนัดได้ในระยะเวลาที่แตกต่างกันจึงควรปรึกษาแพทย์ล่วงหน้า นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขโดยการสนับสนุนของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้จัดให้มีบริการวัคซีนแก่เด็กแรกเกิดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงวัยเรียน ซึ่งเด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนอย่างน้อยตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดซึ่งทางกระทรวงฯได้บริการให้ฟรี โดยเด็กทุกคนสามารถรับวัคซีนเหล่านี้ได้จากสถานพยาบาลของรัฐ หรือสถานีอนามัยทุกแห่ง และควรรับวัคซีนให้ครบ


ข้อมูลอ้างอิง

6วัคซีนพื้นฐาน สำหรับเด็ก

คำถามที่มักพบ ก่อน และหลังฉีดวัคซีน

ตารางการให้วัคซีนในเด็กไทย 2566 โดย สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย

คลังรูปภาพ
แท็กที่เกี่ยวข้อง
FDAknowledge
oryor
การรักษา
ผลิตภัณฑ์ยา
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ยา
อย.
สาระความรู้
ฉีดวัคซีน
ข้อควรรู้เมื่อฉีดวัคซีน
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับวัคซีน
วัคซีนเสริม
วัคซีนพื้นฐาน
ฉีดในเด็ก
เด็กไทย
เด็กเล็ก
เด็กแรกเกิด
เด็กอ่อน