
ทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะว่าเขาล้างจมูกกันไปทำไม
แล้วเราต้องล้างจมูกเหมือนคนอื่นด้วยไหม และที่สำคัญคือเราต้องล้างจมูกอย่างไร
ใช้น้ำอะไรล้าง ในบทความนี้มีคำตอบ
การล้างจมูก จะช่วยชะล้างน้ำมูก หนอง สิ่งสกปรก
มลพิษหรือสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในโพรงจมูก ทำให้บรรเทาอาการคัดจมูก
ลดความเหนียวข้นของน้ำมูก ลดจำนวนเชื้อโรคที่อยู่ในโพรงจมูก
โดยสามารถทำได้ในกลุ่มบุคคลทั่วไปและกลุ่มผู้ที่มีโรคทางจมูกและระบบทางเดินหายใจ
เช่น โรคภูมิแพ้ โรคโพรงจมูกหรือไซนัสอักเสบ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการล้างจมูก ประกอบด้วย
1. น้ำเกลือชนิดปราศจากเชื้อนอร์มาลซาไลน์ 0.9% (Normal saline 0.9% , 0.9% Sodium chloride ,
NSS 0.9%) ก่อนใช้ ควรอ่านฉลาก และวันหมดอายุ
ให้ละเอียด
2. กระบอกฉีดยาขนาดตามความเหมาะสมของผู้ใช้
3. ภาชนะสำหรับใส่น้ำเกลือที่ยังไม่ใช้ ควรเป็นภาชนะที่สะอาด
ไม่ผ่านการใช้มาก่อน เพื่อป้องเชื้อโรคที่ติดกับภาชนะ
4. ภาชนะสำหรับใส่น้ำเกลือที่ล้างจมูกแล้ว
ขั้นตอนการล้างจมูก
1. อุ่นน้ำเกลือก่อนการล้างจมูก ให้มีอุณหภูมิพอเหมาะกับเยื่อบุจมูก
การใช้น้ำเกลือที่ไม่ได้อุ่นล้างจมูก อาจทำให้เกิดการคัดจมูกหลังการล้างได้
2. ใช้กระบอกฉีดยา ดูดน้ำเกลือที่อุ่นได้ที่แล้วในปริมาณน้อย ๆ ก่อน
ในผู้ใหญ่ประมาณ 10-15 ซีซี ในเด็กประมาณ 5 ซีซี
3. โน้มตัวไปข้างหน้า ก้มหน้าเล็กน้อย นำปลายกระบอกฉีดยา
ใส่เข้าไปในจมูกข้างที่จะล้างเล็กน้อย อ้าปากไว้ แล้วหายใจเข้าเต็มที่
และกลั้นหายใจไว้
4. ดันกระบอกสูบของกระบอกฉีดยา เบา ๆ ให้น้ำเกลือไหลเข้าไปในจมูกช้า ๆ ควรเริ่มล้างจมูกข้างที่มีอาการคัดจมูกน้อยกว่า และควรดันน้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูกทุกทิศทาง
5. หลังจากล้างเสร็จ สั่งน้ำมูก หรือน้ำเกลือที่คั่งค้างอยู่ในโพรงจมูกออก ควรล้างจนกว่าจะรู้สึกว่าจมูกโล่ง ไม่มีน้ำมูกหรือสิ่งสกปรกอะไรคั่งค้างในจมูก
หลังจากล้างจมูกเสร็จทุกครั้ง ควรล้างอุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูกให้สะอาดด้วยน้ำสบู่
หรือ น้ำยาล้างจาน แล้วล้างด้วยน้ำประปาจนสะอาด (ในกรณีที่ใช้กระบอกฉีดยาที่ทำจากแก้ว หลังจากล้างแล้วควรนำมาต้มกับน้ำเดือด ประมาณ 5 นาทีแล้วผึ่งให้แห้ง)
ในการล้างจมูกต้องล้างจมูกด้วยน้ำเกลือฆ่าเชื้อนอร์มาลซาไลน์ 0.9% เท่านั้น ไม่ใช้น้ำเปล่าอื่น ๆ เนื่องจากอาจเกิดการระคายเคืองได้
เพิ่มโอกาสให้เกิดอาการแสบที่โพรงจมูก หรือเกิดการติดเชื้อได้
#ล้างจมูก #น้ำเกลือ #น้ำเกลือฆ่าเชื้อนอร์มาลซาไลน์0.9% #Normalsaline0.9% #NSS0.9%
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/500