
โรคปอดอักเสบหรือที่เรียกกันว่า ปอดบวม เกิดจาก 2 สาเหตุ ได้แก่
1.ปอดอักเสบจากการติดเชื้อ โดยเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ได้แก่ เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งเชื้อที่พบจะแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มอายุ และสภาพแวดล้อมที่เกิดโรค เป็นชนิดของปอดอักเสบที่พบได้บ่อยที่สุด
2.ปอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เกิดจากการหายใจเอาสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น ฝุ่น ควัน สารเคมีที่ระเหยได้ การใช้ยาปฏิชีวนะ ยาเคมีบำบัด และยาสำหรับควบคุมการเต้นของหัวใจบางชนิด
โรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้ออาจมีความรุนแรงมากจนนำไปสู่การเสียชีวิต ฉีดวัคซีนป้องกันโรค แพทย์แนะนำในกลุ่มเสี่ยง หมายถึง เด็กเล็ก ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำหรือมีโรคประจำตัวบางอย่าง
การป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ (Pneumococcal vaccine)
เป็นวัคซีนสำหรับป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus Pneumonia ซึ่งเป็นเชื้อพบบ่อยที่ก่อให้เกิดโรคปอดอักเสบ โดยวัคซีนนี้ มี 2 ชนิด คือ
1.วัคซีนชนิดโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) ป้องกันการติดเชื้อปอดอักเสบแบบลุกลามได้ดี แต่กระตุ้นภูมิอยู่ได้ไม่นาน ต้องมีการฉีดกระตุ้นซ้ำหลังจากเข็มแรก 5 ปี ตัวอย่างเช่น วัคซีนชนิดโพลีแซคคาไรด์ป้องกันเชื้อนิวโมคอคคัส 23 สายพันธ์ (PPSV23)
2.วัคซีนชนิดคอนจูเกต (Conjugate) ป้องกันการติดเชื้อปอดอักเสบแบบลุกลามและแบบไม่ลุกลามได้ เมื่อได้รับวัคซีนหลายครั้งจะมีภูมิคุ้มกันอยู่ได้ตลอดชีวิต ปัจจุบันวัคซีนชนิดคอนจูเกตที่มีการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มี 3 ชนิด ได้แก่ PCV13 (ป้องกันเชื้อ 13 สายพันธุ์) PCV15 (ป้องกันเชื้อ 15 สายพันธุ์) PCV20 (ป้องกันเชื้อ 20 สายพันธุ์ )
ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (Flu vaccine) และวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ (Pneumococcal vaccine) เพื่อลดอัตราการเกิดโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อ ทั้งสองวัคซีนสามารถฉีดพร้อมกันในวันเดียวได้ โดยฉีดคนละแขน หลังฉีดวัคซีนอาจมีอาการปวดบวมบริเวณที่ฉีดเล็กน้อยแต่จะหายเองได้ภายใน 2-3 วัน
#ปอดอักเสบ #ปอดบวม #วัคซีน
#วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ #Pneumococcalvaccine