
อย. ลุย ร่วมกับ บก.ปคบ. และ สสจ.นครราชสีมา ปราบปรามผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา จับสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ “เอเชีย สลิม (Asia Slim)” ที่เคยตรวจพบผสมสารไซบูทรามีน ซึ่งเป็นสารอันตราย และ อย. ได้ยกระดับเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 1 ยึดของกลางมูลค่า 2 ล้านบาท แจ้งดำเนินคดีโทษหนักทั้งจำและปรับ เตือนผู้บริโภค อย่าหลงเชื่อโฆษณาอวดสรรพคุณขายผลิตภัณฑ์สุขภาพผ่านทางสื่อต่าง ๆ อาจได้รับผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารอันตราย เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพื่อความปลอดภัย สามารถตรวจสอบเลขทะเบียนตำรับยาและเลขสารบบอาหาร รวมทั้งผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ ได้ทาง Oryor Smart Application
วันนี้ (6 มิถุนายน 2561) ณ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ นายแพทย์วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผบก. ปคบ. , แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการตรวจจับผลิตภัณฑ์ Asia Slim โดย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า จากภารกิจที่รับผิดชอบในกำกับดูแลการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญกับการทลายแหล่งผลิตภัณฑ์สุขภาพที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อมิให้ประชาชนได้รับอันตราย นอกจากนี้ จากการเป็นประธานกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ได้มีการให้ยกระดับไซบูทรามีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 แล้ว เนื่องจากต้องการให้เพิ่มโทษหนักขึ้นต่อผู้ผลิต/จำหน่าย/นำเข้า ที่ลักลอบใส่สารไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่งล่าสุดพบมีผู้บริโภคร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชื่อ “เอเชีย สลิม (Asia Slim)” บางรายกินแล้วเกิดอาการเบลอ ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคตามนโยบายรัฐบาล ดังนั้น เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2561 เจ้าหน้าที่ อย. ภายใต้การอำนวยการของ นายแพทย์วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับ ตํารวจ บก.ปคบ. กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง นําทีมโดย พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผบก. ปคบ. , พ.ต.อ.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบก.ปคบ. , พ.ต.อ.วินัย วงษ์บุบผา รอง ผบก.ปคบ. , พ.ต.อ.ธวัช ปิ่นประยงค์ รอง ผบก. ปคบ. , พ.ต.อ.สมชาย จันทร์คง รอง ผบก.ปคบ. , พ.ต.อ. ชนันนันธ์ สารถวัลย์แพทศย์ ผกก.4 บก.ปคบ. , พ.ต.ท.อภิชัย ไลออน รอง ผกก.4 บก.ปคบ. , พ.ต.ท.จตุรงค์ ผลเกิด รอง ผกก.4 บก.ปคบ. และพ.ต.ต.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ สว.กก.4 บก.ปคบ. ได้ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา โดยประสานความร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “เอเชีย สลิม (Asia Slim)” จำนวน 4 จุด ด้าน พ.ต.อ.วินัย วงษ์บุบผา รอง ผบก.ปคบ. เปิดเผยต่อว่า การทลายแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Asia Slim 4 จุดข้างต้น ดังนี้
1. บ้านเลขที่ 439 ม.1 โฮมเพลส ซอย 8 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง โดยมี นายณัฐดิษฐ์ พรเลิศแสงธรรม เป็นผู้นำตรวจค้น ผลการตรวจพบ ผลิตภัณฑ์ Asia Slim ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ประกาศผลวิเคราะห์ว่าพบยาไซบูทรามีน
2. เจ้าหน้าที่ขยายผลตรวจสอบบ้านเลขที่ 441 ม.6 โฮมเพลส ซอย 8 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง โดยมี นายณัฐดิษฐ์ พรเลิศแสงธรรม เป็นผู้นำตรวจค้น ผลการตรวจพบ ผลิตภัณฑ์ Asia Slim , ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง และพบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง
3. บ้านเลขที่ 555 ม.6 ต.โคกกรวด อ.เมือง โดยมี นายชนะกฤต ประสงค์ทรัพย์ เป็นผู้นำตรวจค้น ผลการตรวจพบ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง
4. บ้านเลขที่ 65/6 ถ.กุดั่น ต.ในเมือง อ.เมือง โดยมี นายอภิสักหณ์ศิริ ธนาศิริประเสริฐ เป็นผู้นำตรวจค้นผลการตรวจพบ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง
เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดเพื่อดำเนินคดี คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท และสงผลิตภัณฑ์ตรวจวิเคราะห์ ณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อหาสารที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคต่อไป
ด้าน นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงการดำเนินคดี ในเบื้องต้นพบการกระทำความผิด ดังนี้
1. ผลิตภัณฑ์ Asia Slim ที่ฉลากระบุผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควบคุมน้ำหนัก แต่เมื่อแกะจากซอง พบภายในเป็นซองพลาสติกใส 2 ซอง และข้างในพบเป็นเม็ดยาลักษณะยาชุด ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 มีโทษดังนี้
1.1 มีความผิดขายยาชุด โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
1.2 ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
1.3 ขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
2. จำหน่ายอาหารที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท
3. จำหน่ายอาหารปลอม เนื่องจาก แสดงฉลากเพื่อลวง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 – 100,000 บาท
4. จำหน่ายเครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5. จำหน่ายเครื่องสำอางปลอม ซึ่งเป็นเครื่องสำอางที่ใช้ฉลากแจ้งชื่อผู้ผลิตหรือแหล่งผลิตที่มิใช่ความจริง มีโทษจำคุก 3 เดือน หรือปรับ 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
6. จำหน่ายเครื่องสำอางที่ใช้ฉลากซึ่งทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง มีโทษจำคุก 3 เดือน หรือปรับ 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อในตอนท้ายว่า หากมีประกาศตามกฎหมายให้ยกระดับไซบูทรามีนเป็นวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 1 แล้ว ผู้ใดขายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยา ไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์อาหาร จะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 400,000 บาท – 2,000,000 บาท จึงขอเตือนมายังผูประกอบการใหปฏิบัติตามกฎหมาย มิเช่นนั้นจะได้รับโทษสูงสุดดังกล่าว และขอให้ผู้บริโภคระลึกเสมอว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่สามารถลดความอ้วนได้ หากมีการโฆษณาว่าสามารถช่วยรักษาโรค ลดความอ้วน หรือมีผลในทางยา ขอให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจมีส่วนผสมของยา ซึ่งผู้ใช้อาจได้รับผลข้างเคียงจากยานั้น จนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หากต้องการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและควบคุมอาหาร รวมทั้งออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ หากผู้บริโภคพบเบาะแสการโฆษณา การผลิต/ จําหนายผลิตภัณฑสุขภาพที่โอ้อวดสรรพคุณ โดยเฉพาะอ้างลดความอ้วน ทาง Social Media ขอให้แจ้งมาได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ หรือ สายด่วน บก.ปคบ 1135 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป