อย. แนะคนไทยทุกเพศทุกวัยใช้เกลือบริโภคเสริมไอโอดีน
และผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีนในการปรุงอาหาร
เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
เปิดเผยว่า วันที่ 25 มิถุนายนของทุกปีเป็น “วันไอโอดีนแห่งชาติ” ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปแล้วว่า
โรคขาดสารไอโอดีน เป็นปัญหาสาธารณสุขระดับชาติ
ที่พบในประชาชนที่กินอาหารที่ไม่มี หรือมีสารไอโอดีนน้อยเป็นประจำ
หากทารกขาดสารไอโอดีนจะส่งผลให้สมองเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ระดับสติปัญญาจะลดลง
พิการ หรือปัญญาอ่อนได้ และอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ทารกเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์
ส่วนผู้ใหญ่อาจเป็นโรคคอพอก เชื่องช้า ผิวหนังแห้ง และท้องผูก เนื่องจากไอโอดีนใช้สร้างไทรอยด์ฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายและการพัฒนาสมองของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์
รวมถึงการเสริมสร้างสติปัญญา
โดยไอโอดีนเป็นแร่ธาตุตามธรรมชาติ พบมากในอาหารทะเล ปริมาณไอโอดีนที่ต้องการต่อวัน
สำหรับเด็กประมาณ 90-120 ไมโครกรัม
ผู้ใหญ่ 150 ไมโครกรัม ขณะที่หญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรจะมีความต้องการที่
มากขึ้นคือ 200 ไมโครกรัม ดังนั้นเพื่อการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีน อย.
จึงขอแนะผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์อาหารที่เสริมสารไอโอดีนในการปรุงประกอบอาหาร เช่น
เกลือบริโภค น้ำปลา น้ำเกลือปรุงอาหาร
และผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถั่วเหลือง
รองเลขาธิการฯ
ขอให้ผู้บริโภคตระหนักในความสำคัญของไอโอดีนโดยเลือกซื้อและใช้เกลือเสริมไอโอดีน
หรือผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีน โดยดูได้จากฉลากผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า
มีการเสริมไอโอดีน มีชื่อที่อยู่ของผู้ผลิตชัดเจน และมีเลข อย. บนฉลากด้วย ทั้งนี้
การบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีนขอให้ใช้เพียงเพิ่มรสชาติอาหาร
อย่าใส่ในปริมาณมากจะเกิดผลเสียต่อร่างกาย หากมีข้อสงสัยสามารถค้นหาข้อมูลความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเกลือบริโภคและผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่เสริมไอโอดีน
ได้ที่เว็บไซต์กองอาหารของ อย. https://food.fda.moph.go.th/ หมวดบริการข้อมูลสำหรับผู้ประกอบการ หัวข้อหลักเกณฑ์/ข้อกำหนด เรื่องเกลือบริโภค
และผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่ผสมไอโอดีน หรือทาง QR Code นี้