ช่วงฤดูฝน ไข้เลือดออกระบาดหนัก อย. แนะวิธีเลือกซื้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงรูปแบบต่างๆ หลักสำคัญ คือ สังเกตเลขทะเบียน วอส. ในกรอบเครื่องหมาย อย. หรือเลขที่รับแจ้งทุกครั้ง ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย

เภสัชกรวีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค พบผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสมในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 5 มิถุนายน 2567 จำนวน 30,353 ราย เสียชีวิต 36 ราย และคาดการณ์ว่าอาจเสียชีวิตมากกว่า 200 รายในปีนี้ ซึ่งเพิ่มสูงสุดในรอบ 5 ปี สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ห่วงใยต่อสถานการณ์และสุขภาพของประชาชน แนะการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงที่อยู่ในความดูแลของ อย. ให้ถูกวิธี ซึ่งมีหลากหลายชนิด อาทิ ทรายกำจัดลูกน้ำยุงหรือทรายทีมีฟอส (Temephos) ห้ามใช้กับน้ำที่นำมาดื่มกิน ยาจุดกันยุงหรือสเปรย์ฉีดกันยุงควรใช้ในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก อยู่ห่างจากวัสดุที่ติดไฟง่าย และหลีกเลี่ยงการสูดดม แม้ในปัจจุบันมีการปรับแต่งกลิ่นให้มีกลิ่นหอมเลียนแบบธรรมชาติ แต่การสูดดมสารเคมีเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอาการมึนงง ปวดศีรษะ อาเจียน กล้ามเนื้อกระตุก อ่อนเพลีย ชัก หรือหมดสติได้  กรณีผลิตภัณฑ์ทากันยุงควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และห้ามใช้บริเวณเยื่อบุอ่อน เช่น ใกล้ดวงตา ริมฝีปากหรือบริเวณที่มีแผล ทั้งนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันยุงทุกรูปแบบ ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังใช้และเก็บในที่มิดชิด ห่างจากเด็ก อาหาร และสัตว์เลี้ยง ส่วนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ให้เลือกที่มีการแสดงเลขทะเบียนวัตถุอันตรายทางสาธารณสุข (วอส.) ในกรอบเครื่องหมาย อย.บนฉลากหรือเลขที่รับแจ้งเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความปลอดภัย

          รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า วิธีป้องกันตนเองจากโรคไข้เลือดออกเบื้องต้น ควรสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ทาผลิตภัณฑ์ป้องกันยุง ใช้มุ้งหรือมุ้งลวด จัดสภาพแวดล้อมไม่ให้มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เช่น คว่ำภาชนะที่มีน้ำขัง ปิดภาชนะกักเก็บน้ำให้มิดชิด หมั่นสำรวจลูกน้ำยุงในภาชนะกักเก็บน้ำ เปลี่ยนน้ำในแจกัน ทุก ๆ 7 วัน เพื่อตัดวงจรชีวิตลูกน้ำที่กลายเป็นยุง หรือใช้วิธีทางกายภาพ เช่น ใช้ไม้ตบยุงไฟฟ้า หลอดไฟดักยุง ขัดล้างไข่ยุงลายที่ติดอยู่กับภาชนะใส่น้ำ เพื่อกำจัดไข่ยุงลาย หรือใช้วิธีทางชีวภาพ เช่น ปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะใส่น้ำถาวร อ่างบัว หรือภาชนะที่ปลูกพืชน้ำ