อย. ร่วมกับ PMDA Asia
Office ประเทศญี่ปุ่น และประเทศสมาชิกอาเซียน
แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านกฎระเบียบของเอเชีย เสริมสร้างขีดความสามารถของหน่วยงานกำกับดูแลในเอเชีย
เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ผู้บริโภคเข้าถึงได้
ทั้งยังเป็นการกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช
เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เภสัชกรหญิงสุภัทรา
บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
(อย.)
ร่วมหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ H.E.Prof TAKEMI Keizo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ประเทศญี่ปุ่น ในงาน International Symposium for
Asia Regulatory Coordination ~ Memoriam for Establishment of PMDA Asia
Office ในประเด็นเกี่ยวกับการส่งเสริมการประสานและบูรณาการด้านกฎระเบียบ
เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของอาเซียนผ่านการสื่อสารโดยตรงกับสำนักงานหน่วยงานกำกับดูแลยาของประเทศญี่ปุ่น
(PMDA)
ทั้งนี้
การจัดตั้งสำนักงานหน่วยงานกำกับดูแลยาของประเทศญี่ปุ่น (PMDA) แห่งแรกในเอเชีย ณ กรุงเทพฯ
แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันในการส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน
โดยความเป็นผู้นำของ PMDA ในด้านยา และเครื่องมือแพทย์
ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ซึ่งสำนักงาน PMDA สาขาใหม่นี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ที่เติบโตของ PMDA
กับ อย.
เท่านั้น
แต่ยังเป็นอนาคตร่วมกันระหว่างประเทศอาเซียน และญี่ปุ่น
ในการปรับปรุงมาตรฐานกฎระเบียบและการส่งเสริมนวัตกรรม ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศญี่ปุ่นยังได้ประกาศขั้นตอนการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ด้านสุขภาพระดับโลก
โดยมุ่งเป้าไปที่การบ่มเพาะบุคลากรทางการแพทย์ในประเทศต่าง ๆ ของเอเชีย
และมุ่งเน้นการทำงานทางการแพทย์ร่วมกับต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยเกิดการวิจัยยาทางคลินิก
มีการพัฒนายาใหม่ รวมถึงการคิดค้นเครื่องมือแพทย์นวัตกรรม
พร้อมเป็นอุตสาหกรรมการแพทย์แบบครบวงจร เพื่อทำให้มั่นใจว่าผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว
การประชุมครั้งนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาขีดความสามารถของ
อย. และหน่วยงานกำกับดูแลในภูมิภาค โดยเฉพาะด้านการทดลองทางคลินิกในภูมิภาคเอเชีย
นอกจากนี้ ยังมีส่วนสำคัญในการขยายโอกาสให้ประเทศไทยและภูมิภาคนี้กลายเป็นศูนย์กลางการทดลองทางคลินิก
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนายาและเครื่องมือแพทย์ใหม่ อันเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ
(Medical Hub) และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญกับความท้าทายทางสุขภาพในอนาคต