
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เดินหน้าเพิ่มศักยภาพระบบกำกับดูแลยาและวัคซีน
ประชุมเตรียมการร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลกเตรียมความพร้อมรับการตรวจประเมินระบบกำกับดูแลยาและวัคซีนตามเกณฑ์
WHO
Global Benchmarking Tool (GBT) ในปี 2569 ตั้งเป้ายกระดับการกำกับดูแลวัคซีน
พร้อมรับการตรวจประเมินระบบกำกับดูแลยาให้เข้าสู่มาตรฐานระดับสากล
นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า เมื่อปี 2564 WHO ให้การรับรองระบบกำกับดูแลวัคซีนของประเทศไทยให้อยู่ในระดับ Maturity
Level 3 ซึ่งแสดงถึงการยอมรับความเสถียรภาพของระบบกำกับดูแลด้านวัคซีน
ซึ่งจะมีการตรวจประเมินซ้ำในปี 2569 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และกรมควบคุมโรค
จึงตั้งเป้าพัฒนาระบบกำกับดูแลด้านวัคซีนโดยอิงตามเกณฑ์ Maturity
Level 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
ซึ่งหากผ่านเกณฑ์ดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยได้รับการรับรองว่า
ระบบกำกับดูแลของประเทศมีประสิทธิภาพสูงเทียบเท่าหน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้
ประเทศไทยจะแสดงความจำนงขอรับการตรวจประเมินในระบบกำกับดูแลยาเพิ่มเติม
ซึ่งจะทำให้ระบบการกำกับครอบคลุมทุกมิติของยาและวัคซีน
ตั้งแต่การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ การตรวจสอบคุณภาพ การกำกับหลังออกสู่ตลาด
ตลอดจนการเฝ้าระวังความปลอดภัยของยาและวัคซีนได้รับการยอมรับได้ระดับสากลเพิ่มสูงขึ้น
รองเลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า การยกระดับนี้จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ
ทำให้ผลิตภัณฑ์ยาและวัคซีนที่ได้รับอนุญาตจาก อย.
ได้รับการยอมรับในระดับสากลมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สามารถลดขั้นตอนการขึ้นทะเบียนในต่างประเทศ
เพิ่มโอกาสการส่งออก
และสร้างแต้มต่อทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการไทยอย่างเป็นรูปธรรม
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยาและวัคซีนไทยในตลาดโลก
และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนไทยในระยะยาว