สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติดระดับโลก
(CND) ชูแนวทางของประเทศไทยในการสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์อย่างเพียงพอ
ควบคู่กับมาตรการควบคุมที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันการรั่วไหลไปใช้ในทางที่ผิด
พร้อมนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหายาขาดแคลน โดยผลักดันนโยบายการวิจัยและผลิตในประเทศเพื่อสร้างความมั่นคงทางยาอย่างยั่งยืน
นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล
รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า อย. ได้เข้าร่วมการประชุมระหว่างสมัย ครั้งที่ 1
ของคณะกรรมาธิการยาเสพติด สมัยที่ 68 โดยสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC)
ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 2 ตุลาคม 2568 ณ กรุงเวียนนา
ประเทศออสเตรีย โดยได้แลกเปลี่ยนนโยบายยาเสพติดระดับโลก
และนำเสนอจุดยืนของประเทศไทยในการแก้ปัญหาการขาดแคลนสารควบคุมเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์
ซึ่งเป็นความท้าทายที่หลายประเทศกำลังเผชิญ เช่น กรณีการขาดแคลนยาเมทิลเฟนิเดต (methylphenidate) สำหรับรักษาโรคสมาธิสั้นอันมีสาเหตุหลักมาจากการพึ่งพาผู้ผลิตในต่างประเทศ
ประเทศไทยจึงกำลังผลักดันนโยบายส่งเสริมให้ผู้ผลิตในประเทศสามารถวิจัยและพัฒนาการผลิตวัตถุเสพติดทางการแพทย์ได้เอง
เพื่อสร้างความมั่นคงทางยาในระยะยาว นอกจากนี้
กระทรวงสาธารณสุขยังได้ส่งเสริมนโยบายการดูแลแบบประคับประคอง (Palliative
Care) โดยปรับปรุงกฎหมายและระบบกระจายยาแก้ปวดกลุ่มโอปิออยด์ให้เข้าถึงผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลได้อย่างทั่วถึง
พร้อมนำเทคโนโลยี Track and Trace มาใช้ติดตามและควบคุมการกระจายยาให้เป็นไปอย่างปลอดภัยและเหมาะสม
รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า ประเทศไทยขอย้ำเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับนานาชาติ
เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างการเข้าถึงยาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์
และการกำกับดูแลที่รัดกุม
เพื่อป้องกันก