
อย. เผย ปีงบ 2558 ร่วมมือ บก.ปคบ. จับกุมและดำเนินคดีผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย จำนวน 101 ครั้ง ของกลาง 1,019 รายการ มูลค่ากว่า 185 ล้านบาท โดยเฉพาะการจับกุมร้านขายยาที่มีพฤติกรรมลักลอบขายยาอันตราย ทรามาดอล และยาน้ำแก้ไอ ให้แก่เยาวชนนำไปใช้ในทางที่ผิดทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มากกว่า 20 แห่ง จนถูกลงโทษถึงขั้นพักใช้ใบอนุญาตขายยาแล้ว สนองนโยบายรัฐในการกวดขันเรื่องดังกล่าว พร้อมเดินหน้างานคุ้มครองผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และสมประโยชน์ ไม่ปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวล
นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้รณรงค์เร่งรัดปราบปรามจับกุมผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายมาโดยตลอด เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ต้องการให้ประชาชนได้บริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพมาตรฐานและปลอดภัย โดยเฉพาะการสนองนโยบายรัฐบาลในเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดในกลุ่มเยาวชน เนื่องจากพบว่ามีการนำกลุ่มยาแก้ไอมาผสมกับยาแก้ปวด ทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย ซึ่งถือเป็นการนำยามาใช้ในทางที่ผิด ดังนั้น ในรอบปี 2558 อย. จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมร้านขายยาที่กระทำผิดกฎหมายที่มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาอันตราย ทรามาดอล และยาน้ำแก้ไอ ให้แก่เยาวชนโดยผิดกฎหมายทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้มากกว่า 20 แห่ง และมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงได้เสนอคณะกรรมการยาให้ความเห็นชอบในการพักใช้ใบอนุญาตขายยาแล้ว
เลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อไปว่า การดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยจากผลิตภัณฑ์สุขภาพ ส่วนหนึ่ง อย. ได้มีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด โดยศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ศรป.) อย. ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ซึ่งในปีงบประมาณ 2558 มีการจับกุมและดำเนินคดี จำนวน 101 ครั้ง พบผู้กระทำความผิด จำนวน 148 ราย จำนวนของกลาง 1,019 รายการ คิดเป็นมูลค่า 185.55 ล้านบาท (แยกเป็น ยา มูลค่าของกลาง 31.17 ลบ./ 729 รายการ , อาหาร มูลค่าของกลาง 151.21 ลบ./181 รายการ , เครื่องสำอาง มูลค่าของกลาง 2.45 ลบ./ 84 รายการ , วัตถุอันตราย มูลค่าของกลาง 0.5 ลบ./11 รายการ , วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มูลค่าของกลาง 0.17 ลบ./13 รายการ และยาเสพติด 0.05 ลบ./1 รายการ) ตัวอย่างคดีสำคัญที่ตรวจจับ ดังนี้
- คดีจับร้านขายยา ลักลอบจำหน่ายยาน้ำแก้ไอให้แก่เยาวชน นำไปใช้ผลิตยาเสพติด 4x100
- คดีจับร้านขายยา ลักลอบจำหน่ายยาเสียสาว
- คดีจับยาลดความอ้วนรายใหญ่ ยึดของกลางร่วม 100 ล้านบาท
- คดีบุกจับหมอเถื่อน ย่านสระบุรี รักษาโรคร้ายแรงแนวไสยศาสตร์ โฆษณาสรรพคุณเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค ยึดของกลางร่วม 10 ล้านบาท
- คดีจับผู้ลักลอบผลิตและจำหน่ายยาน้ำสมุนไพรและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพผสมสเตียรอยด์ ที่ จ.ขอนแก่นของกลางกว่า 20 ล้านบาท
- คดีบุกจับสถานที่ผลิตและขายเครื่องสำอางผิดกฎหมายรายใหญ่ ย่านรังสิต , ย่านรามคำแหงและย่านตลาดแอร์พอร์ตดอนเมือง
- คดีจับบริษัทขายตรงลักลอบขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางผิดกฎหมาย
- คดีบุกจับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผิดกฎหมายทางอินเทอร์เน็ต ย่านปากเกร็ด
- คดีจับคลินิกเถื่อน พบสารเติมเต็มให้ผิว ไม่มี อย. รับรอง
- คดีจับแหล่งขายยาสมุนไพร อวดสรรพคุณครอบจักรวาล ผ่านทาง 35 เว็บไซต์
- คดีจับคลินิกเถื่อนฉีดผิวขาว
- คดีจับยาลดความอ้วน อ้างชื่อ เชอร์รี่ 3 โคก โฆษณาเกินจริง
- คดีจับ 2 เว็บไซต์ ที่โฆษณาอวดสรรพคุณทั้งรักษาโรค และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ 2558 อย. ยังมีการเผาทำลายของกลางผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ใช่ยาเสพติด ซึ่งมีคำพิพากษาถึงที่สุด ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งสิ้น 132 คดี น้ำหนัก 32,730 กิโลกรัม มูลค่าของกลางกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้ อย. จะมุ่งมั่นเฝ้าระวังและกำกับดูแลตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ออกจำหน่ายในท้องตลาด รวมทั้งสถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัยจากการเลือกซื้อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ พร้อมทั้งติดอาวุธทางปัญญาให้ผู้บริโภคผ่านสื่อต่าง ๆ ที่ อย. จัดทำขึ้น ขอให้มั่นใจในการดำเนินงาน ของ อย. หากผู้บริโภคพบการผลิต/จำหน่าย ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่คาดว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือโฆษณาอวดสรรพคุณเกินจริงทางสื่อต่าง ๆ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือรองเรียนผาน Oryor Smart Application หรือ สายด่วน บก.ปคบ. 1135 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ร่วมมือกับ อย.ในการเฝ้าระวังตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้ผู้บริโภคทั่วประเทศ เลขาธิการฯ อย. กล่าวในที่สุด