
ภาวะไข้ เป็นปัญหาที่พบบ่อยในเด็ก ถ้าไม่ได้รับการดูแลเบื้องต้นอย่างถูกวิธี อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ โดย “ภาวะไข้” หมายถึง ภาวะที่เด็กมีอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.6 องศาเซลเซียส ขึ้นไป โดยอายุของผู้ถูกวัดและบริเวณร่างกายที่วัดจะมีอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ทำให้มีการใช้อุปกรณ์วัดไข้ในเด็กที่แตกต่างกันเพื่อความเหมาะสม
การวัดไข้ในเด็กสามารถทำได้ไม่ยาก แต่ผู้วัดจำเป็นต้องอ่านคู่มือการใช้งานก่อนเพื่อให้เกิดความเข้าใจและสามารถปฏิบัติได้ตามขั้นตอนได้อย่างถูกต้อง
โดยอุปกรณ์และช่องทางสำหรับการวัดอุณหภูมิหรือวัดไข้ในเด็ก มีหลากหลายอุปกรณ์และวิธี ดังนี้
- เทอร์โมมิเตอร์แบบปรอท นิยมใช้วัดทางปาก ทวารหนัก หรือใต้รักแร้ เป็นต้น
- เทอร์โมมิเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ นิยมใช้วัดทางปาก ทวารหนัก ใต้รักแร้ หรือใต้รักแร้ เป็นต้น
- แถบวัดไข้ ใช้ นิยมใช้วัดทางหน้าผาก
โดยแต่ละวิธีจะมีการเลือกใช้แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย ดังนี้
- การวัดทางปาก เหมาะสำหรับเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป
- การวัดทางทวารหนัก เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 4 ขวบ
- การวัดใต้รักแร้ เหมาะสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิด
- การวัดทางรูหู เหมาะสำหรับเด็ก 3 ขวบขึ้นไป
- การวัดทางหน้าผาก เหมาะสำหรับเด็กทุกวัย
ทั้งนี้ มีข้อควรระวังสำหรับเทอร์โมมิเตอร์แบบปรอทที่มักจะทำด้วยวัสดุแก้วปรอท ต้องระมัดระวังในระหว่างการใช้ อย่าให้เกิดการแตกเพราะจะเกิดการบาดเจ็บและพิษจากปรอทได้
เมื่อเด็กมีไข้ ควรได้รับการดูแลเบื้องต้นโดยการลดอุณหภูมิร่างกายลง เพื่อป้องกันอาการชัก ยกตัวอย่าง เช่น สวมเสื้อผ้าให้บางลง เช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดาที่ไม่เย็นหรืออุ่น เป็นต้น แต่หากไข้ยังไม่ลดลงหลัง 30 นาที ควรพาไปพบแพทย์