แชร์มั่ว !! การไม่เปลี่ยนผ้าอนามัย ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูก
4 ตุลาคม 2560

          ข่าวแชร์มั่ว ๆ ที่บอกว่า การใช้ผ้าอนามัยแบบซึมซับมาก ๆ หรือการไม่ค่อยเปลี่ยนผ้าอนามัยในแต่ละวัน อันตรายมาก เพราะเลือดเป็นอาหารของเชื้อแบคทีเรีย และเป็นการเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้อีกทางหนึ่งด้วย และอ้างว่าหลักการใช้ผ้าอนามัยที่ถูกคือต้องเปลี่ยนทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อให้จุดซ่อนเร้นสะอาดไม่อับชื้น วิธีนี้ช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้อีกทางหนึ่งด้วย เป็นข้อมูลที่ผิด ไม่น่าเชื่อถือ และไม่ควรแชร์ต่อ

          เพราะสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกนั้น คือการติดเชื้อ HPV (Human papilloma virus) ซึ่งส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมาจากเพศสัมพันธ์ ผ่านการสัมผัสผิวหรือเยื่อบุของอวัยวะเพศ หรือการที่ปากมดลูกมีรอยถลอกหรือแผลที่ทำให้เชื้อเข้าไปได้ นอกจากการติดเชื้อ HPV แล้ว ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่ 
          1. อายุ มักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี
          2. มีคู่นอนตั้งแต่อายุน้อยๆ หรือหลายคน ทำให้มีโอกาสได้รับเชื้อเอชพีวีมากขึ้น
          3. สูบบุหรี่จัด  ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลงซึ่งรวมทั้งบริเวณปากมดลูกด้วย
          4. มีบุตรจำนวนมาก
          5. ร่างกายมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (โรคเอดส์)
          6. ไม่เคยตรวจภายใน 

และสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ตามสถานพยาบาล หรือโรงพยาบาลต่าง ๆ แม้จะป้องกันไม่ 100 % แต่ก็เป็นหนทางหนึ่งที่ดีสำหรับการป้องกันในขณะนี้

 

*อ้างอิงจาก คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง
สุขภาพ
อย.
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ปวดประจำเดือน
แอลกอฮอล์
ฆ่าเชื้อโรค
ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรค
ความเชื่อ
ยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์
สเตียรอยด์
สารสเตียรอยด์