
สิว เป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคน เนื่องจากก่อให้เกิดความรู้สึกกังวลและไม่มั่นใจ ปัจจุบันมียาทาภายนอกสำหรับรักษาสิวหลากหลายชนิดหลายรูปแบบในท้องตลาด โดยส่วนมากจะออกฤทธิ์ลดสิวอุดตัน ฆ่าเชื้อสิว และลดการอักเสบ จะมีอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย
ยาทาภายนอกสำหรับรักษาสิวที่นิยมใช้ ได้แก่
1. ยากลุ่ม Benzoyl peroxide มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อสิว ลดปริมาณเชื้อและไขมันบนผิวหนัง โดยควรจะเริ่มใช้ยาในขนาดความเข้มข้นต่ำ ๆ ก่อนผลข้างเคียง คือ ระคายเคืองผิวหนัง ผิวลอก แสบผิว
2. ยากลุ่ม Retinoids และอนุพันธ์ มีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังลอกหลุดเร็วขึ้น สิวอุดตันนิ่มและหลุดออกจากผิว ทำให้ปริมาณหัวสิวลดลง ยานี้ให้ใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรอย่างใกล้ชิด
ผลข้างเคียง คือ ระคายเคืองผิวหนัง ช่วงแรกอาจมีสิวเห่อมากขึ้นเล็กน้อย และห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ รวมถึงหลีกเลี่ยงในสตรีระยะให้นมบุตร โดยอาการข้างเคียงจาก 2 กลุ่มข้างต้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการลดความเข้มข้น หรือลดระยะเวลาที่ทา ยากลุ่มนี้แนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงแสงแดด หรือทาผลิตภัณฑ์กันแดดร่วมด้วย
3. ยากลุ่มที่มีตัวยาปฏิชีวนะ(Antimicrobial) มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ตัวยาที่นิยมใช้ได้แก่ clindamycin และ erythromycin ผลข้างเคียง คือ ผิวลอก ผิวบาง แสบผิว ไม่ควรทายาที่มีตัวยาปฏิชีวนะอย่างเดียว เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อดื้อยาได้ นิยมใช้ร่วมกับยา benzoyl peroxide
4. ยากลุ่มที่มีส่วนผสมของกรด Salicylic ช่วยให้สิวอุดตันที่มีอยู่ค่อย ๆ หลุดออกผลข้างเคียง คือ ระคายเคืองผิวหนัง หากใช้ในความเข้มข้นสูงอาจทำให้ผิวลอกได้
ไม่ควรซื้อยารักษาสิวมาใช้เอง เพราะสิวมีหลายชนิด หลายประเภท จึงอาจเป็นการรักษาที่ไม่ตรงกับสาเหตุ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา และหากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิวต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง :
ยารักษาสิว | คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (mahidol.ac.th)
สิว (ตอนที่ 2) | คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (mahidol.ac.th)
: ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องทางเภสัชศาสตร์ (pharmacycouncil.org)