
อัพเดทข้อมูล ณ วันที่ 27/06/67
รู้หรือไม่ว่า
ผักและผลไม้ที่วางขายตามท้องตลาดนั้นอาจจะมีสารพิษตกค้างจากยาฆ่าแมลงได้
การล้างทำความสะอาดผักและผลไม้ก่อนรับประทานหรือนำมาปรุงอาหารจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
เพราะสามารถช่วยป้องกันสารพิษตกค้างหรือการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคได้
แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่า การล้างผักและผลไม้ของเราที่ทำอยู่นั้น
สามารถลดสารพิษที่ตกค้างอยู่ได้จริงหรือไม่ ในบทความนี้จึงขอแนะนำ
วิธีการล้างผักและผลไม้ง่าย ๆ ที่จะช่วยลดสารพิษตกค้างในผักและผลไม้
และลดการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคได้
ไปดูกันเลย
วิธีที่ 1 การล้างน้ำธรรมดา
โดยแช่น้ำ 5-20 นาที (เขย่า/ลูบเบาๆ)
แล้วล้างผ่านน้ำสะอาดไหลซ้ำอีกครั้งหนึ่งไม่น้อยกว่า 30 วินาที
ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการล้างผักและผลไม้จำนวนน้อย
วิธีที่ 2 แช่ในน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต
(เบกกิ้งโซดา)
(โซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนชา หรือ
5 กรัม ต่อน้ำ 4
ลิตร ) แช่ให้ท่วมผักและผลไม้นาน 15 นาที
ล้างน้ำสะอาด
วิธีที่ 3 แช่ในน้ำผสมเกลือ โดยแช่ในสารละลายโซเดียมคลอไรด์ (เกลือ1 ช้อนโต๊ะหรือ
18 กรัม ต่อน้ำ 2
ลิตร) แช่ให้ท่วมผักและผลไม้นาน 15 นาที
อย่างไรก็ดีการล้างไม่สามารถกำจัดสารพิษตกค้างได้หมด
ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อผักและผลไม้ที่มีสีสันตามธรรมชาติ
ไม่มีคราบขาวของสารเคมี หรือมีกลิ่นที่ผิดปกติ มีรอยกัดแทะของหนอนหรือแมลงอยู่บ้าง
และเลือกรับประทานผักและผลไม้ตามฤดูกาล เนื่องจากผักและผลไม้ที่ปลูกได้ตามฤดูกาลจะมีโอกาสเจริญเติบโตได้ดีกว่านอกฤดูกาล
ทำให้ลดการปนเปื้อนของสารเคมีและปุ๋ย
นอกจากนี้การปรุงหรือแปรรูปอาหาร เช่น การปอกเปลือก ตากแห้ง การลวกและต้ม
ก็สามารถช่วยลดปริมาณสารพิษตกค้างในผักและผลไม้ได้
ซึ่งการปอกเปลือกช่วยลดปริมาณสารพิษตกค้างได้ดีที่สุด กรณีผักและผลไม้ที่ปอกเปลือก
ควรล้างทำความสะอาดก่อนบริโภค
ทั้งนี้ อย.
ไม่แนะนำให้ล้างผักและผลไม้ด้วยสารละลายน้ำผสมด่างทับทิม (โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต
(Potassium
permanganate; KMnO4) เนื่องจากตามกฎหมายยังไม่อนุญาตให้ใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือฆ่าเชื้อที่ใช้สำหรับอาหาร
กรณีใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับผักและผลไม้
ต้องเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผ่าน อย. โดยสังเกตเลขสารบบอาหาร
13 หลัก ในกรอบเครื่องหมาย อย. และล้างตามข้อแนะนำบนฉลาก หากสงสัยสามารถตรวจสอบเลข อย. ได้ทางเว็บไซต์
oryor.com หรือ Line
@FDATHAI