
ไอโอดีนเป็นสารที่มีความสำคัญต่อร่างกายในการพัฒนาระบบประสาทและสมองของเด็ก
มีส่วนช่วยในการควบคุมการทำหน้าที่และเสริมการเจริญเติบโตของระบบประสาท
และเนื้อเยื่อร่างกาย โดยปกติปริมาณไอโอดีนที่ต้องการต่อวันสำหรับเด็ก ประมาณ 90 -
120 ไมโครกรัม ผู้ใหญ่ทั่วไปประมาณ 100 - 150 ไมโครกรัม
หญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตรจะมีความต้องการปริมาณไอโอดีนที่มากขึ้นประมาณ 250
ไมโครกรัมต่อวัน ซึ่งหากร่างกายขาดสารไอโอดีนจะแสดงอาการต่าง ๆ เช่น ประจำเดือนผิดปกติในเพศหญิง
สมรรถภาพทางเพศเสื่อมในเพศชาย อ่อนเพลีย คอพอก เซื่องซึม
ในแต่ละวันร่างกายควรได้รับสารไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสม
โดยสามารถได้รับสารไอโอดีนจากผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีน ซึ่งในบทความนี้จะขอนำเสนอ
4 เค็ม ในการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ปรุงรสและเกลือเสริมไอโอดีน รายละเอียด ดังนี้
1. น้ำปลา เป็นผลิตภัณฑ์ของเหลวรสเค็ม ใช้ในการปรุงแต่งกลิ่นและรสของอาหาร
2. ซีอิ๊ว/ซอสปรุงรส เป็นผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่ได้จากการย่อยโปรตีนของถั่วเหลือง
3. น้ำเกลือปรุงอาหาร เป็นของเหลวที่มีเกลือเป็นส่วนประกอบหลัก
4. เกลือบริโภค เป็นเกลือแกลงที่ใช้เป็นอาหารหรือเป็นส่วนประกอบในอาหาร
วิธีการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ปรุงรสและเกลือเสริมไอโอดีน
1. ใช้ผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่เสริมไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสม
2. สังเกตผลิตภัณฑ์ปรุงรสที่เสริมไอโอดีนจะมีคำว่า
"ผสมเกลือไอโอดีน" "ใช้ไอโอดีนเป็นส่วนผสม"
"ผสมไอโอดีน" หรือ “เสริมไอโอดีน”
หรือหากเป็นเกลือเสริมไอโอดีนจะต้องมีข้อความ “เกลือบริโภคเสริมไอโอดีน”
3. อ่านฉลากผลิตภัณฑ์ โดยต้องมีเลขสารบบอาหารในกรอบเครื่องหมาย อย. นอกจากนี้จะมีข้อความ “ควรบริโภคก่อน” “ควรเก็บในที่ร่มและแห้ง”
4. รับประทานอาหารที่มีไอโอดีน เช่น อาหารทะเล หรือสาหร่ายทะเล
การเลือกบริโภคอาหารที่มีไอโอดีนตามธรรมชาติ
รวมถึงการเลือกบริโภคเกลือบริโภคและผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
#ไอโอดีน #ผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีน
#เกลือเสริมไอโอดีน
ข้อมูลอ้างอิง