
อย. ร่วมกับภาคีเครือข่าย
ประชุมเข้มสกัดกั้นยาเสพติดและสินค้าเถื่อน พร้อมลงพื้นที่ด่านศุลกากรและด่านอาหารและยา จังหวัดมุกดาหาร
มุกดาหาร – สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
นำโดย นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายสำคัญ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองทัพภาคที่ 2 กองทัพบก ด่านศุลกากร
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานด่านตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ด่านตรวจพืชด่านตรวจประมง ด่านกักสัตว์) ร่วมประชุมที่จังหวัดมุกดาหาร
ยกระดับมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดและผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น
หลังพบสถิติการลักลอบนำเข้าเพิ่มสูงขึ้น โดยปี 2568 ด่านอาหารและยาทั่วประเทศสามารถจับกุมของกลางได้แล้วกว่า 9.67 ล้านบาท
พร้อมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านอาหารและยามุกดาหาร
สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
การประชุมครั้งนี้มุ่งเป้าแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกด้านการข่าวกรอง
และกำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้น โดย เลขาธิการ อย. เปิดเผยว่า
ปัจจุบันมี ด่านอาหารและยา 54 แห่งทั่วประเทศ
ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและสินค้าอันตราย โดยในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ด่านฯ
สามารถสกัดกั้นการนำเข้าผ่านสัมภาระผู้เดินทางและพัสดุได้ถึง 50 ครั้ง มีมูลค่าของกลางรวมกว่า 9.67 ล้านบาท
เลขาธิการฯ อย.
และคณะผู้บริหารได้ลงพื้นที่ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ ณ
ด่านศุลกากรและด่านอาหารและยา จังหวัดมุกดาหาร บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2
ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการสกัดกั้นการค้าข้ามพรมแดน
โดยเจ้าหน้าที่รายงานการปฏิบัติงานว่าในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
ได้ดำเนินการตรวจยึดยาน้ำแก้ไอไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine)
จำนวน 13,000 ขวด ที่ลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมายซึ่งมีการนำไปใช้ในทางที่ผิดและเป็นส่วนผสมหนึ่งในสูตรยาเสพติดที่เรียกว่า
4x100 ด้านด่านศุลกากร
มีการสกัดกั้นผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย ที่นำเข้ามาเกินปริมาณที่กำหนด โดยด่านจะมีตู้เอ็กซเรย์สัมภาระผู้โดยสารขาเข้า
เพื่อตรวจสิ่งผิดปกติที่นำติดตัวเข้ามา เช่น บุหรี่เกินอัตราที่นำเข้ามาได้ หรือของที่ซุกซ่อน เป็นโลหะหนักหรือของเหลวที่ต้องสงสัย
ซึ่งสามารถตรวจและสกัดกั้นได้อย่างทันท่วงที
เลขาธิการฯ อย. ย้ำว่า การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ
คือหัวใจสำคัญในการสร้างเกราะป้องกันประเทศจากภัยคุกคามเหล่านี้ อย.
พร้อมขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนไทยมีชีวิตที่ปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน