เป็นอีสุกอีใส ทำอย่างไรดี
21 กรกฎาคม 2564

โรคอีสุกอีใสเกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซอสเตอร์ (Varicella Zoster Virus) เป็นเชื้อตัวเดียวกับเชื้อที่ทำให้เกิดงูสวัด เมื่อเป็นแล้วมักมีภูมิคุ้มกันตลอดชีวิตและไม่เป็นซ้ำอีกแต่เชื้ออาจหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทและหากร่างกายไม่แข็งแรง หรือภูมิคุ้มกันต่ำอาจมีโอกาสเป็นงูสวัดได้ในภายหลัง

          อาการของโรค

1. มีไข้ต่ำๆ

2. อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร

3. ปวดเมื่อยตามตัว

4. มีผื่นขึ้นตามใบหน้า ลำตัวและหลัง ตุ่มเหล่านี้จะกลายเป็นตุ่มนูนมีน้ำใสๆ คล้ายตุ่มหนอง และจะมีอาการคันร่วมด้วย หลังจากนั้นประมาณ 2-4 วันตุ่มใส ๆ ก็จะเริ่มตกสะเก็ด

          การรักษา

1. ให้ยาต้านไวรัส เช่น Acyclovir 

2. ถ้ามีอาการปวด มีไข้ ให้ยาแก้ปวด เช่น Paracetamol

3. ถ้ามีอาการคัน ให้รับประทานยาแก้แพ้ เช่น Cetirizine

4. ถ้ามีอาการปากเปื่อยลิ้นเปื่อยใช้น้ำเกลือกลั้วปาก

          การใช้ยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ หรือเภสัชกรเท่านั้น และโรคอีสุกอีใสเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ดังนั้นผู้ที่เป็นควรแยกห้องและของใช้ส่วนตัวออกจากผู้อื่นเพื่อป้องกันการติดต่อ และสำหรับผู้ที่ไม่เคยเป็นแต่ต้องการป้องกันโรคสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใสได้ โดยแนะนำให้ฉีด 2 ครั้ง ครั้งแรกในเด็กอายุ 12 - 15 เดือนและครั้งที่สองในเด็กอายุ 4 - 6 ปี

คลังรูปภาพ
แท็กที่เกี่ยวข้อง
FDAknowledge
สาระความรู้
ผลิตภัณฑ์สุขภาพ
อีสุกอีใส
วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส
การรักษาอีสุกอีใส
อย.