
รู้หรือไม่ว่า
ผักที่วางขายตามท้องตลาดนั้นอาจจะมีสารเคมีตกค้างจากยาฆ่าแมลงได้
การล้างทำความสะอาดผักก่อนรับประทานหรือนำมาปรุงอาหารจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
เพราะสามารถช่วยป้องกันสารเคมีตกค้างหรือการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคได้
แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่า การล้างผักของเราที่ทำอยู่นั้น ถูกหรือไม่
สามารถลดสารเคมีที่ตกค้างอยู่ได้จริงหรือ ในบทความนี้จึงขอแนะนำ 3 วิธีการล้างผักง่าย ๆ ที่จะช่วยลดสารพิษตกค้างในผักและผลไม้
และลดการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคได้
ไปดูกันเลย
วิธีที่ 1 ให้ล้างด้วยน้ำไหล
โดยแช่ผักในน้ำนาน 15
นาที
จากนั้นเปิดน้ำไหลผ่านและคลี่ใบผักถูไปมานาน 2 นาที
ซึ่งวิธีนี้เหมาะสำหรับการล้างผักจำนวนน้อย สามารถลดสารตกค้างได้ 54-64%*
วิธีที่ 2 แช่ผักในน้ำผสมน้ำส้มสายชู
5 เปอร์เซ็นต์ ในอัตราส่วนน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร
แช่นาน 15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด สามารถลดสารตกค้างได้
29-38%*
วิธีที่ 3 แช่ผักในน้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนต
(เบคกิ้งโซดา) ในอัตราส่วนโซเดียมไบคาร์บอเนต
(เบคกิ้งโซดา) ครึ่งช้อนโต๊ะผสมน้ำ
10 ลิตร แช่ทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาด สามารถลดสารตกค้างได้ 80-95%*
(*ที่มา
: งานโภชนาการ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
มหาวิทยาลัยมหิดล)
อย่างไรก็ดีการล้างผักไม่สามารถกำจัดสารเคมีตกค้างได้หมด 100% ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อผักที่มีสีสันตามธรรมชาติ
ไม่มีคราบขาวของสารเคมี หรือมีกลิ่นที่ผิดปกติ มีรอยกัดแทะของหนอนหรือแมลงอยู่บ้าง
และเลือกรับประทานผักตามฤดูกาล
เนื่องจากผักที่ปลูกได้ตามฤดูกาลจะมีโอกาสเจริญเติบโตได้ดีกว่านอกฤดูกาล
ทำให้ลดโอกาสที่จะมีการใช้สารเคมีและปุ๋ยลง
การเลือกซื้อน้ำส้มสายชูให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่าน อย. โดยสังเกตเลขสารบบอาหาร
13 หลัก ในกรอบเครื่องหมาย อย. หากสงสัยสามารถตรวจสอบเลข
อย. ได้ทางเว็บไซต์
oryor.com หรือ Line @FDATHAI