อินโฟกราฟิก

รู้ไว้ไม่สับสน : ปริมาณน้ำตาลบนฉลากโภชนาการ VS ปริมาณน้ำตาลที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ

น้ำตาล หมายถึง น้ำตาลเชิงเดี่ยว (monosaccharide) และน้ำตาลเชิงคู่ (disaccharides) แบ่งออกเป็น1. น้ำตาลที่ได้จากธรรมชาติ (intrinsic sugar/ natural sugar) เช่น น้ำตาลในพืชผัก ผลไม้ น้ำนม (milk sugar) หรือธัญพืชต่างๆ2. น้ำตาลที่ใช้เติมในอาหารและเครื่องดื่ม (added sugar) หรือกระบวนการผลิตอาหาร (extrinsic sugar) ได้แก่ น้ำตาลที่เติมลงในน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ผลิตภัณฑ์นมปรุงแต่ง ขนมหวาน ช็อกโกแลต ส่วนใหญ่ของน้ำตาลที่ใช้ ได้แก่ น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง น้ำเชื่อมคอร์นไซรัป ไฮฟรุกโตสคอร์นไซรัป เด็กซ์โทส น้ำผลไม้เข้มข้น น้ำผึ้ง เป็นต้นการบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไปเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง  โดยเฉพาะโรคอ้วนและโรคเบาหวาน โดยองค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) แนะนำว่า ปริมาณน้ำตาลที่เติมในอาหาร ไม่ควรเกินร้อยละ 5 ของปริมาณพลังงานทั้งหมดที่ได้รับในแต่ละวัน ซึ่งสามารถกำหนดเป็นปริมาณน้ำตาลในแต่ละวัน ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา สำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี สอดคล้องกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่แนะนำให้ควรบริโภคน้ำตาลที่เติมในอาหารและเครื่องดื่มไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน หรือ 24 กรัมต่อวัน เพื่อการมีสุขภาพที่ดีสำหรับคนไทย ซึ่งปริมาณนี้ไม่นับรวมน้ำตาลที่ได้จากธรรมชาติ (ปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย พ.ศ. 2563; THAI DRIs)ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 394 (พ.ศ. 2561) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรื่อง อาหารที่ต้องแสดงฉลากโภชนาการ และค่าพลังงาน น้ำตาล ไขมัน และโซเดียมแบบจีดีเอ กำหนดปริมาณน้ำตาลสูงสุดที่บริโภคได้ต่อวันเท่ากับ 65 กรัม เมื่อคิดจากพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี หรือร้อยละ 13 ของพลังงานที่ควรได้รับต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่รวมน้ำตาลที่ได้จากธรรมชาติและน้ำตาลที่เติมลงในผลิตภัณฑ์ โดยข้อมูลปริมาณน้ำตาลที่แสดงในฉลาก GDA เป็นข้อมูลที่สอดคล้องกับข้อมูลน้ำตาลทั้งหมดที่แสดงในกรอบข้อมูลโภชนาการ ทั้งนี้ ปริมาณน้ำตาลทั้งหมดนี้ เป็นผลรวมของน้ำตาลที่มีตามธรรมชาติในวัตถุดิบและน้ำตาลที่เติมลงในผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้จากการวิเคราะห์โดยห้องปฏิบัติการดังนั้น ในการเลือกซื้อและบริโภคผลิตภัณฑ์อาหาร ผู้บริโภคควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่เหมาะสมกับภาวะสุขภาพของตนเอง ควรดูปริมาณน้ำตาลที่แสดงในกรอบข้อมูลฉลากโภชนาการและฉลากจีดีเอ  และดูปริมาณการใช้น้ำตาลในสูตรส่วนประกอบบนฉลากอาหาร โดยเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการเติมน้ำตาล หรือมีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกัน จากตัวอย่างฉลากโภชนาการ หากกินหมด 1 ขวด จะได้รับปริมาณน้ำตาล 25% คิดจากปริมาณสูงสุดที่บริโภคได้ต่อวัน (65 กรัม) ซึ่งสามารถได้รับปริมาณน้ำตาลจากการบริโภคอาหารอื่นได้อีก 75% (จากการบริโภคอาหารมื้อหลัก 3 มื้อ, อาหารว่างและเครื่องดื่มระหว่างมื้อ)     #ฉลากโภชนาการ #น้ำตาล #น้ำตาลจากธรรมชาติ #น้ำตาลที่ใช้เติมในอาหารและเครื่องดื่ม #sugar #intrinsic sugar #natural sugar #added sugar

โพสต์วันที่ 24 มิ.ย. 68