อินโฟกราฟิก

"ไม่เค็ม...แต่ก็มีโซเดียมนะ!! ความจริงที่ผู้บริโภคควรรู้"

เมื่อพูดถึงโซเดียม หลายคนมักนึกถึง \"ความเค็ม\" ของเกลือ หรืออาหารที่มีรสเค็มจัด แต่ความจริงแล้ว โซเดียมไม่ได้มาเฉพาะจากเกลือเท่านั้น และอาหารที่ไม่เค็มก็อาจมีโซเดียมสูงได้เช่นกันโซเดียมคืออะไร? โซเดียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายและช่วยการทำงานของกล้ามเนื้อและประสาท แต่เมื่อบริโภคโซเดียมมากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคไต โดยทั่วไปร่างกายต้องการโซเดียมประมาณ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน โดยปริมาณสูงสุดที่บริโภคแล้วไม่อันตราย คือ 2,000 มิลลิกรัมต่อวันตัวอย่างสารที่มีโซเดียมแต่ไม่เค็ม ผงฟู  โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium Bicarbonate) NaHCO₃ ขนมปัง เบเกอรี เช่น เค้ก คุกกี้ โดนัท ผงชูรส โมโนโซเดียม กลูตาเมต (Monosodium Glutamate) C₅H₈NO₄Na   อาหารแปรรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว สารกันบูด บางชนิด                    โซเดียมเบนโซเอต (Sodium Benzoate) C₆H₅COONa น้ำอัดลม น้ำผลไม้สำเร็จรูป ซอสต่าง ๆ เช่น ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ     คำแนะนำสำหรับผู้บริโภค1.       อ่านฉลากโภชนาการ: อย่าดูแค่รสชาติ ให้ตรวจสอบปริมาณโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหารที่ซื้อ โดยดูจาก \"ข้อมูลโภชนาการ\" บนผลิตภัณฑ์ เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์จากหลายยี่ห้อ เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่มีโซเดียมต่ำที่สุด 2.       ลดการบริโภคอาหารแปรรูป เลือกบริโภคอาหารสด เช่น ผักสด ผลไม้สด เนื้อสัตว์สด แทน จะช่วยลดการบริโภคโซเดียมแฝงจากอาหารแปรรูปได้3.       ปรุงอาหารเองที่บ้าน การปรุงอาหารที่บ้านช่วยให้ควบคุมปริมาณโซเดียมที่ใช้ในการปรุงอาหารได้โดยสามารถเลือกใช้เครื่องปรุงรสที่มีโซเดียมต่ำหรือไม่มีโซเดียมได้4.       บริโภคในปริมาณที่เหมาะสม แม้อาหารบางชนิดจะไม่เค็ม แต่ถ้ากินเยอะก็อาจได้รับโซเดียมเกินได้          ดังนั้นการเข้าใจว่า \"ไม่เค็ม\" ไม่ได้แปลว่า \"ไม่มีโซเดียม\" การอ่านฉลากอาหารก่อนบริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราปรับพฤติกรรมการบริโภคได้อย่างมีสติ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว  #ไม่เค็ม #โซเดียม #ผลิตภัณฑ์อาหาร

โพสต์วันที่ 27 มิ.ย. 68